ราชกิจจาฯประกาศให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ แก่ผู้ป่วยโควิด-ผู้ตรวจ ATK เป็นบวก

21 ส.ค. 2564 | 22:09 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2564 | 23:27 น.

สภาเภสัชกรรมประกาศแนวทางการให้บริการยา “ยาฟาวิพิราเวียร์” แก่ผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจ ATK แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง

วันที่ 20 สิงหาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ ๕๖/๒๕๖๔ เรื่อง แนวทางการให้บริการยา favipiravir และยาจําเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจ สําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Self-Test Kits)

ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรง รวดเร็ว ไปสู่ชุมชน ครอบครัวอย่างกว้างขวาง ไปทุกภูมิภาคของประเทศ กระทบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน ตลอดจนความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคม นับเป็นภัยพิบัติร้ายแรงของประเทศชาติ การค้นหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว แยกจากชุมชนและครอบครัว เพื่อมิให้เป็นพาหะแพร่เชื้อโดยวิธีการ Home isolation หรือ Community isolation

รวมทั้งได้รับยา Favipiravir และยาจําเป็น ในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ยังไม่แสดงอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง ลดการเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้อง เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลและการเสียชีวิตได้ ช่วยบรรเทาภาวะวิกฤติการบริการทางแพทย์ และสาธารณสุข

ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านยา ตามกฎหมายว่าด้วยยาอยู่ทั่วประเทศ มีส่วนช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตให้สามารถเข้าถึง ยาจําเป็นได้รวดเร็วและเหมาะสม สภาเภสัชกรรมจึงกําหนดแนวทางการให้บริการยา Favipiravir และ ยาจําเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจสําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COMID-19 Antigen Self-Test Kits) เพื่อประโยชน์และความปลอดภัย ของผู้ป่วยและการควบคุมโรคระบาด

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ (๑) มาตรา ๔ (๗) มาตรา ๒๓ (๑) และมาตรา ๒๔ (๑) (ก) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗ นายกสภาเภสัชกรรมโดยความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสภาเภสัชกรรมในการประชุมครั้งที่ ๓๑๓ (๙/๒๕๖๔) วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ ๕๖/๒๕๖๔ เรื่อง แนวทาง การให้บริการยา favipiravir และยาจําเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจสําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Self-Test Kits)”

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ เภสัชกรชุมชนประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อเพื่อคัดกรองเบื้องต้นว่า ควรได้รับการตรวจติดตามการติดเชื้อโควิด-19 ด้วย Antigen Self-Test Kit

ข้อ ๔ ในกรณีที่ผู้ป่วยหรือผู้สงสัยเข้าข่ายมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ เภสัชกรชุมชนจ่าย Antigen Self-Test Kit ให้แก่ผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อ พร้อมคําแนะนําวิธีการใช้ Antigen SelfTest Kit วิธีการทิ้งและทําลายชุดตรวจเมื่อใช้เรียบร้อยแล้ว

ข้อ ๕ เภสัชกรชุมชนอธิบายผลการตรวจเมื่อผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อได้ส่งภาพหรือรูปถ่าย ผลการตรวจให้แก่เภสัชกรชุมชนได้รับทราบ

ข้อ 5 ในกรณีที่ Antigen Self-Test Kit แสดงผลเป็นลบ เภสัชกรชุมชนให้คําปรึกษา แก่ผู้สงสัยติดเชื้อให้ยังคงแยกกักตัวจากผู้อื่น สังเกตอาการตนเองในระหว่างการกักตัว และแนะนํา ให้ตรวจเชื้อโควิด-19 ซ้ําหลังจากการตรวจครั้งแรกประมาณ ๓ ถึง ๗ วัน หรือตรวจอีกครั้งทันที เมื่อผู้กักตัวสังเกตว่ามีอาการคล้ายการติดเชื้อโควิด-19 เภสัชกรชุมชนติดตามอาการผู้กักตัวเป็นระยะ ๆ จนหมดระยะเวลากักตัว

ข้อ ๗ ในกรณีที่ Antigen Self-Test Kit แสดงผลว่าติดเชื้อโควิด-19 เภสัชกรชุมชน ซักถามอาการเพิ่มเติม เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของผู้ป่วยว่าเป็นสีเขียว เหลือง หรือแดง และ ให้คําปรึกษาในการดูแลตนเอง ให้แยกกักตัวจากผู้อื่น และเภสัชกรชุมชนจัดเตรียมยาเพื่อใช้สําหรับ Home Isolation จัดส่งให้แก่ผู้ป่วยที่บ้าน เภสัชกรชุมชนคอยติดตามอาการและผลการใช้ยาของผู้ป่วย เป็นระยะ ๆ ตามมาตรฐานการบริบาลทางเภสัชกรรม

ข้อ ๘ รายการยาสําหรับ Home Isolation ประกอบด้วยรายการยาจําเป็นสําหรับ การรักษาตนเองตามอาการ และยาต้านโควิด-19 ตามแนวทางที่กรมการแพทย์กําหนด

ตัวอย่าง รายการยา Home Isolation สําหรับการกักตัว ๑๔ วัน

(๑) ยาพาราเซตามอล ๕๐๐ มิลลิกรัม สําหรับลดไข้ แก้ปวด จํานวน ๓๐ เม็ด

รับประทาน ครั้งละ ๑ เม็ด ทุก ๔ - ๖ ชั่วโมง เวลามีไข้

(๒) ยาเด็กซ์โทรเมทอร์แฟน สําหรับแก้ไอแห้ง จํานวน ๓๐ เม็ด รับประทาน ครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง หลังอาหารเช้า กลางวัน และเย็น

(๓) ยาอะเซทิลซีสทีน สําหรับละลายเสมหะ จํานวน ๒๐ เม็ดหรือ ๒๐ ซองช ละลายยา ๑ เม็ด หรือ ๑ ซอง ในน้ำ ๑ แก้ว รับประทาน วันละ ๑ ครั้ง หลังอาหารเช้า หรือ เย็น

(๔) ยาคลอเฟนนิรามีน ๔ มิลลิกรัม สําหรับลดน้ำมูก จํานวน ๓๐ เม็ด รับประทาน ครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง หลังอาหารเช้า

(๕) ผงเกลือแร่ ORS สําหรับท้องเสีย จํานวน ๕ ซอง ละลายผงเกลือแร่ ๑ ซองในน้ำ ๑ แก้ว จิบแทนน้ำ เมื่อท้องเสีย น้ำเกลือแร่ไม่ควรเก็บเกิน ๒๔ ชั่วโมง

(๖) ยาฟ้าทะลายโจร สําหรับลดไข้ แก้เจ็บคอและต้านเชื้อโควิด-19 จํานวน 50 เม็ด รับประทาน ครั้งละ ๓ - ๔ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง เป็นเวลา ๕ วัน (โดยให้มีปริมาณของ Andrographolide ๑๘๐ มิลลิกรัมต่อวัน)

(๗) ยาฟาวิพิราเวียร์ ๒๐๐ มิลลิกรัม สําหรับต้านเชื้อโควิด-19 จํานวน ๕๐-๖๔ เม็ด วันแรก รับประทาน ครั้งละ ๙ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น วันที่ ๒ - ๕ รับประทาน ครั้งละ ๔ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น

กรณีน้ำหนักตัว มากกว่า ๙๐ กิโลกรัม

  • วันแรก รับประทาน ครั้งละ ๑๒ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น
  • วันที่ ๒ - ๕ รับประทาน ครั้งละ ๕ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น

(๘) รายการยาอื่น ๆ ตามแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์

ข้อ ๙ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ เภสัชกรชุมชน จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังสถานพยาบาลต่อไป

ข้อ ๑๐ ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีปัญหาในการตีความ หรือในกรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด ในกรณี ที่นายกสภาเภสัชกรรมเห็นสมควรอาจเสนอให้คณะกรรมการสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด

คําวินิจฉัยของนายกสภาเภสัชกรรม หรือ ของคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม แล้วแต่กรณี ให้ถือว่าเป็นที่สุด

ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

รองศาสตราจารย์จิราพร ลิ้มปานานนท์

นายกสภาเภสัชกรรม

  ราชกิจจาฯประกาศให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ แก่ผู้ป่วยโควิด-ผู้ตรวจ ATK เป็นบวก   ราชกิจจาฯประกาศให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ แก่ผู้ป่วยโควิด-ผู้ตรวจ ATK เป็นบวก   ราชกิจจาฯประกาศให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ แก่ผู้ป่วยโควิด-ผู้ตรวจ ATK เป็นบวก