*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3724 ระหว่างวันที่ 21-23 ต.ค.2564 …โดยกาแฟขม
*** สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกและประเทศไทยยังหนาแน่น แต่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง โดยเฉพาะประเทศไทยสถิติผู้ติดเชื้อรายวันล่าสุดวันที่ 18 ต.ค.2564 ผู้ติดเชื้อ 10,111 ราย เสียชีวิต 63 ราย จากยอดผู้เสียชีวิตที่เกิน 100 คน มาโดยตลอด แต่ก็เป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาล ที่ต้องลดยอดผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็มีทางเดียว ต้องระดมวัคซีนกระจายฉีดให้ประชาชนให้มากที่สุด ผู้ที่ได้รับวัคซีนโอกาสเสียชีวิตจะลดลง แม้ได้รับเชื้อ
*** รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มั่นใจเดินหน้าคลายล็อก เปิดกิจกรรมให้เศรษฐกิจขยับมาเคลื่อนไหว ปลุกเศรษฐกิจที่ทรุดลงไปให้ฟื้นตัวขึ้น ไล่ตั้งแต่ 1 พ.ย. ที่อาจจะมีการยกเลิกเคอร์ฟิว ที่ขณะนี้ร่นระยะเวลาเหลือ 23.00-03.00 น.เท่านั้น แค่ระยะเวลา 3-4 ชั่วโมง ไม่มีเหตุให้คงไว้ต่อไป ปัญหาที่พึงระวัง ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์รวบรวมเงินมาลงทุนล็อตสุดท้าย หาแรงงานมาใหม่ แล้วต้องกลับไปปิดอีกรอบ อันนี้จะเป็นอันตราย
*** เพลานี้นายกรัฐมนตรีคงต้องลงลุยพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เสาะแสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริง ให้ได้ครบถ้วนถูกต้องให้มากที่สุด อย่าฟังแต่รายงานสรุปที่หน่วยงานเสนอมา ซึ่งมักจะไม่กล้ารายงานข้อเท็จจริงให้ทราบ ฉากหนึ่งด้วยเหตุของโรคโควิด-19 เที่ยวนี้ทุบทำลายภาพของฐานราก เศรษฐกิจของชาวบ้านย่ำแย่จริงๆ ทำมาค้าขายไม่ได้ ผลผลิตราคาตกต่ำ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ตอนนี้กระจายไปในวงกว้างแล้ว ชาวบ้านต้องไปกู้หนี้ยืมสิน กู้ยืมเงินนอกระบบดอกเบี้ยโหดๆ มาประทัง ต้องระวังหลังจากนี้คนหมดสิ้นหนทาง จะนำไปสู่การก่ออาชญากรรม ลัก วิ่ง ชิง ปล้น จะตามมา ก็ต้องเตือนกันไว้ตรงนี้ ให้หาแนวทางป้องกันเอาไว้ก่อน
*** เงียบและหายไปกับโควิดพร้อมกับเศรษฐกิจภาพใหญ่ เขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี ที่รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นหมุดหมายการลงทุนใหม่ หลังจากซบเซามานานและไทยไม่มีจุดขายใหม่ให้นักลงทุนจากทั่วโลกหลังจากอีสเทิร์นซีบอร์ดตั้งแต่ 30 ปีก่อน แน่นอนนักลงทุนมองอีอีซีเป็นโอกาสเมื่อขยับกันในเบื้องแรกคึกคักอย่างยิ่ง แต่ควันก็จางลงไป ตั้งแต่ปรับครม.เอา สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และทีมออกไป ต้องยอมรับพลังในการผลักดันอย่างแข็งขันลดน้อยลง ขาดการสานต่ออย่างจริงจัง นายกรัฐมนตรีลองเรียกกราฟการลงทุนโดยตรง ( FDI) มาพิจารณาเปรียบเทียบ และลองเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านดู และเมื่อถึงเวลานี้นักลงทุนจะมองเวียดนาม อินโดนีเซียก่อน การผลักดันอย่างเข้มแข็งหนักแน่นจากฝ่ายนโยบายจึงสำคัญยิ่ง และที่สำคัญไม่น้อยและต้องคำนึงถึง การยอมรับจากนานาชาติ ความเชื่อมั่นที่ต้องกู้กลับคืนมาให้ได้ ทีมทำงานระดับอินเตอร์ต้องมีไว้ข้างกายนายกรัฐมนตรีบ้าง
*** ฟาดแรงเลย สมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง มือทำงานด้านเศรษฐกิจ มีความท้าทายอีกมากที่ภาครัฐ กระทรวงการคลัง ต้องเข้าใจและหาทางแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ใช่การแก้ปัญหาเป็นเรื่องๆ แบบผักชีโรยหน้า แนะนำมา 5 ประการที่ต้องบันทึกไว้ การแก้ปัญหาคนตกงานให้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมั่นคง การแจกเงินไม่ใช่สูตรสำเร็จ แก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการเอสเอ็ม หรือ คนตัวเล็กกลับมาค้าขายได้เหมือนเดิมแบบนิวนอมัล นโยบายเสริมสภาพคล่องใช้ตาข่ายกรองรูใหญ่เกินไป ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหลุด ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนภาคประชาชนให้ลดลงเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อปัญหาเชิงโครงสร้าง การแก้ปัญหาความยากจนซ้ำซาก ที่โควิดกระทบอย่างมากต่อกลุ่มคนจน บัตรคนจน ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ใช่การใส่เงินเข้าไปแล้วจบ สุดท้ายการสร้างความสมดุลของรายได้ประเทศ โดยยังคงพึ่งพารายได้จากต่างประเทศ แต่ต้องสร้างความสมดุลหรือความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจภายในประเทศด้วย ..ก็ตรงประเด็นดี
*** อื้ออึงกันทั้งเมือง เมื่อผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจำนวนมาก ประสบปัญหาในการชำระเงินโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง เงินหายไปจากบัญชี ที่ธนาคารต่างยืนยันการตัดเงินจากบัญชีไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของธนาคาร โดยปัญหาเกิดจากระบบซื้อขายออนไลน์ ผู้ใช้บริการไปให้ข้อมูลกับผู้ขาย เจ้าของร้านค้าออนไลน์ ลักลอบนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ตัดเงินจากบัญชีบัตรมากกว่า 1 ครั้ง ทำเสมือนมีการซื้อขายทั้งๆ ที่ความจริงไม่มี กรณีแบบนี้ ถือเป็นการฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอสสั่งการด่วนให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA )บังคับใช้กฎหมายการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องมาจดแจ้งการประกอบธุรกิจ มีการพิสูจน์ตัวตนยืนยันตัวตนทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย ระบบการจ่ายเงิน โอนเงินก็ต้องใช้ระบบการยืนยันตัวตน 2 ชั้น เพื่อป้องกันการเอาข้อมูลลูกค้าไปตัดบัญชีกฎหมายนี้เพื่อกำกับดูแลธุรกิจออนไลน์และแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งหมด
*** อันนี้ช่วยรายย่อย คนเล็กคนน้อย คนจนจริงๆ ธนาคารออมสินออกผลิตภัณฑ์ธนาคารออมสินเชื่อประชารัฐ ให้กับผู้ถือบัตรคนจนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ถือบัตรกู้ได้วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท แค่สำเนาบัตรประชาชน แนบรูปถ่ายสถานที่ประกอบอาชีพ เอกสารรายได้ประกอบอาชีพ(ถ้ามี) สนใจก็ลองเข้าไปดู รายละเอียดกัน ที่เวบไซด์ของธนาคารออมสิน