ตราสัญลักษณ์ SHA รัฐสอบตกซ้ำซาก

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3729 ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย.2564 โดย..กาแฟขม

*** สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ยอดผู้ติดเชื้อรายวัน 7,679 ราย เสียชีวิต 56 ราย ผู้ป่วยสะสม1,906,579 คน เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 ยอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหมื่นมาหลายเพลา รัฐบาลเดินหน้าเปิดเมือง เปิดประเทศ ด้วยเหตุความจำเป็นทางเศรษฐกิจที่ซึมเซาร่อแร่จนทำท่าจะลากกันไปไม่ไหว อันนี้พินิจพิจารณาในระดับรากหญ้าเดินถนน ซึ่งหลายคนบ่นกันอื้อซ่า

*** พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีแนวนโยบายให้การเปิดประเทศครั้งนี้เป็นโอกาสที่ทุกภาคส่วนร่วมกัน “พลิกโฉมประเทศไทย” ยกระดับภารกิจที่ดูแลด้วยแนวทางใหม่ๆ เพื่อให้ประเทศไทยได้เข้าสู่วิถีใหม่ในทุกมิติ สั่งทุกส่วนราชการทั้งส่วนที่ดำเนินการได้เลย และส่วนที่ใช้เวลาเช่นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนได้ระยะยาว

*** การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เด้งรับนโยบายนายกฯ โดยพลัน เปิดตัวแนวคิดการท่องเที่ยวไทยปี 2565 พลิกโฉมการท่องเที่ยวใหม่ “Amazing Thailand, Amazing New Chapters” ที่ตอบสนองทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ด้วยเรื่องราวใหม่ๆ ที่มหัศจรรย์กว่าเดิม และมากกว่าที่เคยสัมผัส โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในประเทศไทย ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ (new normal) เน้นการดูแลสุขภาพอนามัย และความปลอดภัย ภาคธุรกิจปรับตัวนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการให้บริการ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ส่วนใหญ่ใช้งานออนไลน์เป็นหลักแเละลดความเสี่ยงโควิด-19

*** เปิดมาแล้วก็มีปัญหาตามมาทันที โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร พื้นที่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และ ภูเก็ต พื้นที่สีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ในพื้นที่ กทม.คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติคลายล็อกอนุญาตให้ร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้ดื่มกินในร้านได้ จนถึงเวลา 21.00 น.แต่อนุญาตให้เฉพาะร้านอาหาร ที่ได้รับการรับรอง ตรวจประเมินความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA เท่านั้น 

*** โดย ททท. เป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์ SHA ที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสินค้าและบริการรวมทั้งด้านสุขอนามัย มีมาตรการทางสาธารณสุขเป็นหัวใจหลัก สร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับผู้ที่มาใช้สินค้าและบริการนั้น ๆ แต่ปรากฎว่าเสียงบ่น เสียงร้องเรียน จากบรรดาร้านอาหารว่ายาก้เย็นเสียเหลือเกินในการให้ได้มาซึ่งเครื่องหมาย SHA บางร้านไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ต้องมี SHA สะท้อน การทำงานที่ไม่เข้าท่าของหน่วยงานรัฐในการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ

*** ที่บ่นกันระนาวในการเปิดประเทศรอบนี้ อยู่ที่เมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารเฝ้ารอ เมื่อไม่ได้ติดโผคำสั่งให้เปิดไปด้วย ลมหายใจของผู้ประกอบการรวยรินเต็มที คำถามที่ดังเซ็งแซ่ของพวกเขา เมื่อไหร่จะปลดปล่อยพวกเขาบ้าง ไม่มีอะไรยาไส้จะอดตายกันทั้งบางอยู่แล้ว

*** เปิดมาวันแรกสภาผู้แทนราษฎรก็ล่มเสียแล้ว เสมือนทดสอบ ลองของ “ รัฐบาลบิ้กตู่” ที่มีหน้าที่โดยตรงในการทำให้องค์ประชุมครบ เพื่อขับเคลื่อนงานกฎหมายในสภาฯ ว่าแต่ที่ล่มเป็นเพราะประธานวิปถูกสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ แต่เป็นที่รู้กันดีปัญหารอยร้าวในพรรคพลังประชารัฐ เริ่มปริแตกเป็นรูโหว่ อันทำให้การทำงานในสภาฯเกิดปัญหา แค่นัดแรกยังไม่มีกฎหมายสำคัญเสนอ ถ้ามีกฎหมายสำคัญ กฎหมายการเงินเสนอแล้วมีการโหวตคว่ำมันมิทำให้รัฐบาลอายุสั้นหรือ นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพปชร.ที่พร่ำบอกไม่มีปัญหา เคลียร์แล้ว จบแล้ว มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ 

*** อลังการงานสร้าง ใครเอาอะไรมาฉุดก็ใม่อยู่เมื่อ SCBx ยานแม่ ส่ง SCBS เข้าซื้อบิตคับ สตาร์ตอัพที่เป็นยูนิคอร์นตัวแรกๆของไทยในสัดส่วนหุ้น 51 % มูลค่า 17,850 ล้านบาท ไฮไลท์สาดส่องไปที่“ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” Group CEO แห่ง Bitkub Group ที่คาดหวังดีลนี้ผลักดันให้ Bitkub ก้าวเข้ามาเป็นโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย ( Digital Economy) ขึ้นแท่น “ยูนิคอร์น” ระดับท็อปของไทย Bitkub ไม่ได้เป็นเพียงสตาร์ทอัพอีกต่อไป แต่กำลังจะก้าวมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อวงการการเงิน 3.0 ของประเทศไทย ในตอนนี้ Bitkub มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก และเพื่อที่จะนำ Bitkub ให้ก้าวไปสู่ระดับโลก การได้พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งมาเป็นกำลังเสริมให้ไปถึงได้เร็วขึ้นอย่างยั่งยืน SCBx จะตอบโจทย์ที่สั่นสะเทือนเลือนลั่นวงการนี้