‘จิ๊บกี่’ ที่นางเลิ้ง

กี่นี่แปลว่าอะไร? มิทราบได้ แต่น่าสนใจว่าจะต้องเกี่ยวกับเป็ดย่างเสียล่ะกระมัง ร้านเป็ดย่างสกุลเก่านิยมจะลงท้ายชื่อนามกรด้วยคำว่า_กี่ ‘หยิวกี่’ ยังงี้ อยู่แถวประดิพัทธ์ ‘พงษ์กี่’ อยู่รามคำแหง ‘ยิ่งกี่’ อยู่รามอินทรา ‘กิ๊ดกี่’ อยู่จรัญฯ  ‘ไสกี่’ อยู่สาย 1 ในขณะที่ ‘จิ๊บกี่’ อยู่แถวนางเลิ้ง
 
คนอุดร ขอนแก่น ไปจนถึงคนหาด ใหญ่ คนตรัง พังงาเข้ามาประชุมงานที่กรุงเทพฯเพื่อจะงุนงงว่า กรุงเทพฯ ไม่มีร้านข้าวเช้า?
 
ในสังคมวุ่นวายขยายผลของ กรุงเทพ หาร้านข้าวเช้าอย่าง เอมโอช ขอนแก่น / คิงส์ อุดร / จีบขาว เมืองตรัง หามีไม่ในความอบหม่านสับสนรีบเร่งวันเวลา

 

นานเกินไปแล้วที่ไม่มีใครสนทนาหาข่าวโดยละเลียดข้าวเช้าในเมืองหลวง
 
วันนี้เพื่อนสนิทแดนใต้ขึ้นมากรุงเทพพระมหานคร มีความโหยหาระลึกถึงข้าวเช้า
ความ ‘กี่’ ในอารมณ์ก็พลันให้นึกถึงว่า “จิ๊บกี่” นี่ล่ะจะช่วยกู้หน้าเจ้าภาพเจ้ามือเมืองหลวงเอาไว้ได้
 
เปนจิ๊บกี่ ที่ย่านนางเลิ้งเปิดขายมายาวนาน ให้บริการของย่างรสละเอียด รับประทานแบบ-มินิมอล น้ำจิ้มเปนเพียงซีอิ้วดำหวานปรุงน้ำส้ม ลอยพริกเขียวหั่น ได้รสแท้ของเป็ด

หมูย่างและหมูแดงน้ำหยั่นเป็ดย่างของเขา เข้าเต้าเจี้ยวดำลอยเม็ด ขอเพิ่มได้ไม่หวง น้ำราดเป็ดนี้แลดูเหมือนจะใสจางไม่เข้มข้นแต่อุดมไปด้วยรสชาติหนักแน่นอยู่ในนั้น
 
ส่วนอันว่า เกลือแกง เกลือสินเธาว์ เกลือภูเขา เกลือทะเล เค็มต่างกันเกลือเม็ดที่สะตุแล้ว ให้ความเค็มละเอียด ยิ่งดอกเกลือยิ่งมีรสกลมกล่อม
 
หมูกรอบที่ใช้วิธีย่างแบบโบราณของร้านจิ๊บกี่นั่น
 
ควรนับว่าเปนความกรอบนวลเนียลอย่างที่สมควรจะขนานนามว่าหมูกรอบลูบเกลือ รสชาติของเขาตรงไปตรงมาและมีพื้นฐานความมีคุณภาพของเนื้อสัตว์อยู่ตรงนั้น เคลือบไปด้วยความอุตสาหะความมีฝีมือ
 
น้ำจิ้มซีอิ๊วดำปรุงรสกับพริกเขียวหั่นที่ว่า จะกินกับหมูกรอบลูบเกลือที่เค็มละเอียดก็ได้รสวิเศษไปอีกแบบนึง
 
ยามสายได้น้ำแกงเป็ดตุ๋น ร้านจิ๊บกี่นางเลิ้ง ลวกคอแหบแห้งลมหนาว รสก็นุ่มชุ่มคอหอมผักชี ช่างเปนรสชาติที่จริงแท้ซึ่งยืนยงผ่านกาลเวลาเสียจริงๆ