อากาเว่ ฟูมุ่ยกี่ ภัตตาคาร 2
อากาเว่ ฟูมุ่ยกี่ ภัตตาคาร 2 คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine
ในประดาเจ้ายุทธจักรกับข้าวไหหลำเปนฝรั่งสไตล์กุ๊กช็อปนั้น ที่ยืนหนึ่งยืนหยัดมาจนปัจจุบันต้องมี ฟูมุ่ยกี่ ยืนบัญชีเอาไว้หนึ่ง
ก่อนนี้ตึกแถวสองสามคูหากว้างขวางบริเวณถนนทรัพย์ละแวกสุรวงศ์ ฟูมุ่ยกี่สาขาแรกตั้งโต๊ะกลมหินอ่อนเก้าอี้ไม้กลมเช็กโก ให้บริการประดาอาหารกุ๊กช็อป ซีตู(สตูว์) ซีเต็ก (สเต็ก) กิลิท (cutlet) ซีหลัด (สลัด) ขนมปังอบเอง เนยสดปั้นก้อน ลากยาวไปถึงแกงกะหรี่ไก่รสละมุนกินกับอาจาดแตงกวาหอมแขกฝาน ปลาเจี๋ยนน้ำแดงน้ำขาว รองผักบุ้งหมูสับมันหมูเบคอนหั่นกับขิงทอด ปิดท้ายด้วยของหวานอย่างสังขยา (คัสตาร์ดอ่อน) ทำเองทาขนมปัง และมะไฟจีนเชื่อมเกล็ดน้ำตาลกินชุ่มคอ
มาบัดนี้เข้าไปถนนทรัพย์ ซอยประชุม ซอยประสานหาร้านไม่เจอเสียแล้ว
สาขา 2 เขายิ่งโออ่ากว่าเก่า มาให้บริการอยู่ตรงสี่แยก อสมท มานมนาน รุ่นใหญ่ๆมื้อกลางวันพากันมาสำเริงสำราญกับอาหารสไตล์ซีตูซีเต็ก เริ่มจากสลั สลัดเนื้อสันที่ใช้เนื้อสันในวัวรองด้วยผักกาดหอมแตงกวาสดเเช่เย็น มะเขือเทศฝาน หอมใหญ่หวานๆ โปรยด้วยน้ำสลัดใสชนิดทำเองเปรี้ยวหวานออกหน้า ถ้าว่าเด็กเด็กไม่ยอมกินผักก็ยักย้ายจากสลัดเนื้อสัตว์มันไปเป็นสลัดกุ้งทอด (กิลิต/cutlet) คราวนี้น้ำสลัดเป็นครีมข้นปั่นมาจากนมข้นหวานในน้ำส้มสายชูดองเมล็ดมัสตาร์ด ถูกปากเด็กๆ
แกงกะหรี่ไก่ยกมา หอมน้ำแกงเข้ากะทิ ร้อนพริกแห้ง สั่งขนมปังที่เขาอบเองมาตั้งหนึ่งปาดเนยสดลงไปก่อนแล้วค่อยรับประทานไปกับ ไปกับแกงกะหรี่ทั้งน้ำทั้งเนื้อ ตัดรสด้วยอาจาดแตงกวาพริกสด!
ปลาดุกผัดเผ็ดเขาก็มี จานนี้รับประทานกับข้าวสวยร้อนร้อนก็เหมาะ
ร้านในสไตล์กุ๊กช็อปจะให้บริการน้ำซอสชนิดพิเศษวางไว้กลางโต๊ะเสมอ เปนซอสเปรี้ยวแบบฝรั่ง อย่างว่าลีแอนด์เปอร์รีน เพื่อลูกค้าอยากได้เหยาะเติมรสชาติวิเศษ บางคราววูดสเตอร์ซอส ยี่ห้อนั้นไม่มาก็ต้อง โยกย้ายมาใช้ของไทย ตราไก่งวง ของหม่อมหลวงเงียบ ทินกร ใช้หยอดพวกข้าวผัดข้าวอบอร่อยดี
ซอสนี้จะเข้ากันดีที่สุดโดยเฉพาะคือหยอดใส่ซี่โครงหมูอบถั่วลันเตา!
ไก่ทอดในสไตล์ไหหลำกุ๊กช็อปนั้นพิเศษกว่าที่อื่นคือทอดออกมาแล้วไม่มีคำว่าแฉะ ผิวนอกกรอบกร้วม และสุกไปถึงกระดูก
สตูว์ต่างๆเข้ามะเขือเทศเพสต์ ถ้าอ่อนเค็มหยอดซอสถั่วเหลืองฝรั่งลงหน่อย รับประทานกับขนมปังทาเนยอีกเช่นเคย สุดท้ายก็ค่อยว่าการเอาสังขยาซึ่งมีทั้งสีเหลืองไข่ไก่สด และสีเขียวเข้าใบเตยมาทาขนมปังกินล้างปาก
อนึ่งว่าอากาเว้นี้เปนชื่อต้นไม้มงคลต้นไม้มีค่าอากาเว่เปนต้นไม้แพง เข้าใจว่านำเข้ามาจากแถบอเมริกาใต้ ผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่สมัยก่อน ในบ้านต้องมีอากาเว่เลี้ยงไว้ ฯพณฯ บุญชู โรจนเสถียร ซาร์เศรษฐกิจของเราคนนึงล่ะ เลี้ยงอากาเว่ ที่บ้านยูงทองเขาใหญ่รายไปด้วยอากาเว่ มันออกหน่อและโรยเมล็ดลงอย่างบังเอิญที่ดินฉำฉา แลเปนพรมราบรื่นไปหมด ว่ากันว่าชาวเม็กซิกันใช้ต้น (ตัดใบทิ้ง) ไปเผาแล้วหมักทำเตกีล่า!
