ห่างเหินกับการจัดสัมมนามานานพอสมควร หลังจากประเทศเมียนมาได้ประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้ไม่มีการจัดงานสัมมนาเกี่ยวการค้า-การลงทุนในเมียนมามานาน จนจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ในช่วงยุคที่เศรษฐกิจเมียนมาเฟื่องฟู คือช่วงปีค.ศ.2012-2019 เกือบทุกสองเดือน ผมในฐานะประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา และประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมา-ไทย มักจะมีผู้เชิญไปร่วมงานสัมมนาบ้าง งานแสดงสินค้าบ้าง งานแมทชิ่งบ้าง จนแทบจะไม่มีเวลาทำมาหากินในอาชีพของตนเองเลย ทุกครั้งจะมีเพื่อนๆพี่ๆ เดินทางไปพบผมที่เมียนมา เพื่อขอคำแนะนำในเรื่องของการค้า-การลงทุนเป็นประจำ แต่พอเมียนมาเกิดเหตุการณ์ดังที่กล่าว ผมจึงมีเวลาว่างมากเลย
ในปีที่ผ่านมา ก็ได้มีกลุ่มเพื่อนๆ ที่เป็นนักธุรกิจชาวเมียนมา ได้ดินทางเข้ามาหาผมที่กรุงเทพฯหลายกลุ่ม แต่ละท่านที่มามักจะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป บางท่านอยากจะเข้ามาตั้งชมรมนักธุรกิจเมียนมาในประเทศไทย ผมก็อธิบายให้เขาเข้าใจเรื่องข้อกฎหมายของประเทศไทย ว่ามีข้อกำหนดอะไรบ้าง? มีบางท่านก็มาขอคำแนะนำ ว่าอยากจะซื้อหาคอนโดมิเนียม ผมก็ให้คำแนะนำไป ว่าเขตใดบ้างในกรุงเทพมหานคร น่าจะเหมาะสมกับเขา บางท่านก็อยากจะขอให้ผมเป็นนอมินีเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ ผมก็บอกไปว่า ถ้าซื้อแค่คอนโดมิเนียม ก็ไม่จำเป็นต้องหานอมินีเลย คุณสามารถซื้อหาได้โดยการใช้ชื่อคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว ยังมีบางท่านก็อยากจะส่งลูกชายมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ผมก็แนะนำมหาวิทยาลัยให้ บางคนก็อยากมาทำโน่นทำนี่ เยอะแยะที่จะเจอเลยครับ
พอเข้ามาสู่ปีใหม่ที่ผ่านมา ผมเข้าไปดูตัวเลขการซื้อคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ ปรากฎว่าชาวเมียนมาเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมที่มีระดับสูง ในแถบถนนสุขุมวิทเยอะติด Top 5 เลยครับ จึงทำให้ผมและคณะกรรมการสภาธุรกิจไทย-เมียนมาหลายท่าน ให้ความสนใจมาก อีกทั้งในช่วงที่ท่านทูตพาณิชย์ไทยประจำเมียนมาคนใหม่ ท่านจะเดินทางไปรับตำแหน่งที่กรุงย่างกุ้ง เราก็ได้นั่งปรึกษาหารือกัน ว่าทำอย่างไรจะเอาตัวเลขการลงทุนของชาวเมียนมาเหล่านี้ ขึ้นมาบันทึกให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะถ้าหากสามารถให้เขาเข้ามาแบบถูกต้องตามกฎหมายได้ ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นตัวเลขของการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ซึ่งจะส่งผลไปถึงตัวเลข GDP ของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะเลยละครับ
แต่หลังจากวันตรุษจีนที่ผ่านมา ทางการเมียนมาได้ประกาศเรื่องของการเกณฑ์ทหารของหนุ่ม-สาวในประเทศเขา ก็เกิดมีชาวเมียนมาที่อยู่ในวัยที่จะต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร หลั่งไหลเข้ามาสู่ประเทศไทยเรามากพอสมควร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่สามารถวัดได้จากการประกาศของทางการเรา เพราะคนที่หนีเข้ามาอย่างผิดกฎหมายนั้น เขาก็ไม่บอกเราหรอกครับว่า เขาทำงานหรือหลบหนีอยู่ที่ไหน? ผมก็ได้แต่คาดเดาเอาจากการรับรู้จากน้องๆ คนงานชาวเมียนมา ที่คนงานเมียนมาเหล่านี้วันดีคืนดีก็มีเพื่อนๆ ของเขา มาขอให้ช่วยหางานให้ทำ เขาก็จะมาขอกับนายของเขานี่แหละครับ ว่ามีงานให้เพื่อนเขาบ้างมั้ย? แน่นอนว่าต้องเป็นกลุ่มที่หนีเข้ามาใหม่อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ผมเองในช่วงเดือนที่ผ่านมา จึงเกิดไอเดียว่า เราจะช่วยเขาเหล่านี้ไม่ให้หลบหนีเข้ามาสู่ประเทศไทยเราได้อย่างไร? หรือทำอย่างไรให้เขาเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฏหมายให้ได้ เพราะหากเขาเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย หลากหลายปัญหาก็จะตามเขามาอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อประเทศเมียนมาและประเทศไทยเลย เพราะปัญหาด้านอาชญากรรม ปัญหาการแพร่ระบาดโรคร้ายที่ประเทศไทยเราได้จัดการจนกระทั่งหมดสิ้นไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรคเขตร้อนต่างๆ เช่น โรคโปลิโอ โรคเท้าช้าง อหิวาตกโรค เป็นต้น เพราะหากแรงงานเหล่านั้นเข้ามาแบบผิดกฎหมาย นั่นย่อมไม่มีการตวจโรคอย่างแน่นอน เราจึงจำเป็นต้องช่วยกันผลักดัน ไม่ให้เขาเหล่านั้นอยู่ใต้ดินต่อไปครับ
เรื่องนี้แม้จะช่วยได้ไม่มาก เพราะทางการเมียนมาเอง ก็ไม่อยากให้เขาออกมานอกประเทศแบบผิดกฎหมายแน่นอน แต่ถ้าเราไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ปัญหานานวันก็จะยิ่งหมักหมมอย่างนี้ต่อไปครับ ทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมา จึงนำเอาปัญหานี้มาเข้าสู่ที่ประชุม ในวันนั้นเราโชคดีมากๆ ที่ทางบริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (มหาชน) จำกัด โดยท่าน ดร.โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร ท่านรับอาสาจะช่วยจัดงานสัมมนาเรื่องนี้ให้ โดยผมจะพยายามเรียนเชิญให้นักธุรกิจชาวเมียนมา เข้ามาร่วมงานด้วย เพื่อมีวัตถุประสงค์ในการหาซื้อสินค้าเข้าไปขายในประเทศเมียนมา และยังสามารถเข้ามาหาซื้อคอนโดมีเนียม หาสถานการศึกษาให้แก่บุตร-หลานของเขาได้อีกด้วย เรียกว่าทำทีเดียวได้สามงานไปเลย
ซึ่งความเป็นมืออาชีพในการจัดงานของทางเทโรฯ เขาได้มีการเตรียมงานอย่างดีเยี่ยม ทั้งด้านการจัดงานที่ไม่น้อยหน้าหน่วยงานใดๆ แน่นอน อีกทั้งการเชิญผู้ที่จะมาบรรยายในงานสัมมนา และยังมีการเปิดให้จับจองบูธที่แสดงสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุกประเภท สถานการศึกษาต่างๆ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เราได้เตรียมสถานที่ไว้ให้ ทั้งหมดร่วม 30 บูธ ในงานจะมีนักธุรกิจชาวเมียนมาเข้ามาร่วมงานไม่น้อยเลยละครับ ณ วันนี้ ก็มีสมาคมต่างๆของเมียนมา ประมาณสี่-ห้าสมาคมได้ติดต่อขอเข้ามาร่วมงานแล้ว
นี่จึงเป็นโอกาสดีที่เราไม่ต้องเดินทางไปถึงประเทศเขา เราก็สามารถร่วมงานที่กรุงเทพฯได้ครับ งานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 9 เมษายนนี้ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน ถนนรัชดา ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระรามเก้า งานจะมีการสัมมนาให้ความรู้ตลอดวัน สนใจเข้าร่วมสัมมนาหรือออกบูธแสดงสินค้า ติดต่อได้ที่ 061-878-9815 นะครับ สถานที่มีจำกัด ต้องรีบๆ สมัครด่วนครับ