อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 33.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทรงตัวเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวันทำการก่อนหน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกสอดคล้องกับภาพความเคลื่อนไหวของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ขณะที่ตลาดทยอยคลายความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนลงมาบางส่วน อย่างไรก็ดีเงินบาทลดช่วงบวกทั้งหมดลง และปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ ได้แรงหนุนกลับมาในช่วงบ่าย โดยนักลงทุนจับตารอการประกาศตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ วันศุกร์นี้ และผลการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นหุ้นไทย 602.86 ล้านบาท แต่เข้าซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 8,736 ล้านบาท ขณะที่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 1,105 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2564 โดยธปท. อยู่ที่ -2.45 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 0.84 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า คาดไว้ที่ 33.20-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงิน dot plot และประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (14-15 ธ.ค.) ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคานำเข้าและส่งออก การเริ่มสร้างบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ตลอดจนรายงานเบื้องต้นของ PMI เดือนธ.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ข้อมูลการปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. ด้วยเช่นกัน