SKY “เสี่ยบอย & เฟรนด์” ซิ่งทะลุฟ้า

21 มี.ค. 2566 | 21:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 13:44 น.

SKY “เสี่ยบอย & เฟรนด์” ซิ่งทะลุฟ้า คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

*** นาทีนี้ หุ้นที่ให้ผลตอบแทนสวยๆ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้น ไม่มีใครเกินหุ้น SKY ของ “เสี่ยบอย” แอนด์  Friend “หมอชื่อดัง” เข้ามาร่วมถือหุ้น 5% ราคาหุ้นวิ่งระเบิด ราคาที่เคยอยู่นิ่งๆ ออกซิ่งตั้งแต่ “หมอ” เข้ามา จากราคาหุ้นแถวๆ 10 บาท ณ สิ้นปีที่ผ่านมา ยั้งไม่อยู่ ซิ่งไป 32 บาท ก่อนวิกฤติธนาคารสหรัฐ ขึ้นมา 19.55 บาท หรือ 154% เทียบกับราคา ณ สิ้นปี 12.70 บาท ...ขึ้นมาขนาดนี้ธรรมดาที่ไหน เจ๊เมาธ์ว่า ไม่ธรรมดานะ หากของ SKY ไม่ดีจริง คอนเน็กชั่นไม่ปึ๊กระดับบิ๊กจริง “Friend” คงไม่เข้าลงทุน 

*** ดูเหมือนว่า บมจ. อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ ITTHI หุ้นไอพีโอน้องใหม่ป้ายแดง ที่กำลังจะเข้าซื้อขายหุ้นครั้งแรก (First Trading Day) ในวันที่ 22 มี.ค. จะถูกจับตาด้วยความระทึกจนทำให้เจ๊เมาธ์ต้องหาข้อมูลพบเสียงร่ำลือเล่าขานกันหลายเรื่อง จริงหรือไม่...แค่ไหน วันที่ 22 มี.ค. ก็คงจะได้รู้คำตอบกันแล้วเจ้าค่ะ

*** หลังจากที่ธนาคาร 3 แห่งในอเมริกาล้ม กลายเป็นตัวจุดกระแสให้ราคาซื้อขายบิทคอยน์กลับมาทำราคาสูงที่สุดในรอบ 9 เดือน ขึ้นไปแตะ 28,000 เหรียญสหรัฐ เป็นเหตุให้ราคาหุ้นของบริษัทที่เคยประกาศตัวทำเหมือนขุดบิทคอยน์ หรือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่าง JTS ZIGA XPG หรือ GTV (เดิมคือ UPA) กลับมาวิ่งแรงได้อีกครั้ง 

แต่ถ้าหากจะว่ากันจริงๆ สาเหตุที่ทำให้ 2 ใน 3 ของธนาคารที่ล่มสลายก็ล้วนแล้วแต่ทำธุรกิจเกี่ยวกับบิทคอยน์ และ สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น การที่ราคาหุ้นกลุ่มนี้กลับมาแรงครั้งนี้ จึงทำให้เจ๊เมาธ์แอบสงสัยว่าแรงขึ้น เพราะผลการดำเนินงานจะดีกลับคืนมาได้จริง หรือว่าแท้จริงแล้วจะเป็นแค่การปั่นกระแส ล่อแมงเม่ารอบใหม่ อย่าได้หลงลืมกันไปว่าตอนที่บริษัทเหล่านี้เริ่มต้นลงทุนในบิทคอยน์ เป็นจังหวะที่ราคาซื้อขายบิทคอยน์อยู่ที่ 45,000-55,000 เหรียญสหรัฐต่อบิทคอยน์ ซึ่งสูงกว่าราคาบิทคอยน์ในปัจจุบันเกือบเท่าตัวโน้นเลยทีเดียว

*** ราคาหุ้นของ JAS ร่วงลงไปทำราคาหุ้นต่ำที่สุด เพราะนักลงทุนยังงง...และยังมองไม่ออกว่าในท้ายที่สุด เสี่ยพิชญ์ โพธารามิก จะนำพา JAS ไปในทิศทางใดกันแน่ กระแสหนึ่งก็มีข่าวว่าจะเดินไปสู่ทิศทางการทำธุรกิจพลังงาน ส่วนอีกกระแสก็ตั้งข้อสังเกตุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการขายสินทรัพย์เพื่อแปลงรายได้มาเป็นเงินปันผล ซึ่ง เสี่ยพิชญ์ คือ ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งในทางตรงและทางอ้อม

ขณะที่เงินสดซึ่งเกิดจากขายหน่วยลงทุน 3BB และ JASIF ที่ยังไม่ถูกแบ่ง ซึ่งท้ายที่สุดหากเกิดการปันผลพิเศษอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าราคาหุ้นของ JAS จะลงไปยืนอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ และท้ายที่สุด เสี่ยพิชญ์ จะก้าวลงไปจากเรือลำนี้หรือไม่ ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,872 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2566