ในช่วงหน้าร้อน ที่มีอุณหภูมิร้อนจัดและความชื้นในอากาศสูง ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดโรค
“ฮีทสโตรก” หรือโรคลมแดด เป็นภาวะฉุกเฉินร้ายแรง ที่ส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เสียชีวิต
“นพ.จิรภัทร โล่ห์ประธาน” อายุรแพทย์เวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลเวชธานี ให้ข้อมูลว่า “ฮีทสโตรก” (Heatstroke) หรือโรคลมแดด เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูร้อน โดยเกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ทัน จนส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมอง
อาการเริ่มต้น
จะเริ่มจากอุณหภูมิร่างกายค่อย ๆ สูงขึ้น จนร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้รู้สึกผิดปกติ ได้แก่ ไม่มีเหงื่อออก แม้จะอากาศร้อน รู้สึกกระหายน้ำมาก หน้ามืด ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย ซึม สับสน ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หายใจหอบ ตัวแดง
วิธีบรรเทา
ถ้าหากมีอาการเหล่านี้จะต้องหยุดพักทันที ดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อทดแทนภาวะขาดน้ำ หากมีอาการโรคฮีทสโตรก สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายโดย
หลังจากนั้นรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ห้ามฝืนตัวเองเด็ดขาด เพราะจะทำให้นำไปสู่การเกิดอาการเกร็งกล้ามเนื้อ ชัก หมดสติ หัวใจหยุดเต้น และถึงแก่ชีวิตได้
กลุ่มที่มีความเสี่ยงจะเกิดโรคฮีทสโตรก ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่อดนอน ผู้ที่ดื่มเหล้าจัด ผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น นักกีฬา ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจโรคอ้วน ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ และผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แนวทางการป้องกันโรคฮีทสโตรก
หากรู้ตัวว่าจะต้องไปอยู่ในที่อากาศร้อนควรป้องกันตัวเองจากแสงแดดโดยสวมใส่แว่นกันแดดหรือหมวก ส่วนใหญ่แล้วโรคลมแดดเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขภาพและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคลมแดดที่ถูกต้อง