คำว่า สัปปายะ มีปรากฏอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งคำนี้หมายถึงความสมดุลที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต แน่นอนในคำสอนนั้นอาจจะเน้นไปทางด้านธรรมะด้วย ประกอบกับการใช้ชีวิต แต่คำว่าสัปปายะในที่นี้กล่าวถึง คือ มนุษย์ทำงานออฟฟิศ
คุณเชื่อไหมในปัจจุบัน คนที่ทำงานออฟฟิศป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจำนวนไม่น้อย ตลอดทั้งป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมก็ไม่น้อย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าการใช้ชีวิตที่ไม่อยู่ในหลักของสัปปายะ คือความเหมาะสมในการใช้ชีวิตหรือความสมดุลในการใช้ชีวิตนั่นเอง
อะไรที่มากไปก็ไม่ใช่ทางสายกลาง อะไรที่น้อยไปก็ไม่ใช่ทางสายกลาง เช่นเดียวกัน
แม้หลักการของชาวจีนโบราณในการจัดบ้านเรือน หรือเลือกสถานที่ในการสร้างบ้านเรือน เขายังพึงอาศัยความสัปปายะเป็นที่ตั้ง แล้วความสัปปายะนั้น พึงอาศัยบริบทแวดล้อม สิ่งแวดล้อมต่างๆ เป็นตัวตั้ง พร้อมกับจัดบ้านให้กลมกลืนกับบริบทนั้นที่เรียกกันว่า ฮวงจุ้ย
สัปปายะสำหรับคนทำงานออฟฟิศ อาจจะกล่าวได้ว่ามีอยู่ 4 หัวข้อใหญ่อันประกอบไปด้วย
1.อาณาเขต
หมายถึงขนาดของที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมแก่ฐานะ ไม่ใหญ่เกินไป และไม่คับแคบเกินไป
2.อากาศ
หมายถึงการถ่ายเทของอากาศ มีลมพัดผ่านไหม อากาศหมุนดีไหม ซึ่งมีผลต่อสุขภาพร่างกาย
3.อาหาร
หมายถึงหลักทางด้านโภชนาการ ว่าได้รับอาหารที่มีคุณค่าเพียงพอหรือไม่ ตลอดทั้งเหมาะกับธาตุในร่างกายหรือไม่
4.อาจารย์
หมายถึงองค์ความรู้ที่จะได้รับจากกัลยาณมิตร ว่ามีต่อกันมากน้อย เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และทัศนคติต่างๆ ไปในเชิงบวก
ทั้ง 4 ข้อนี้คือสัปปายะที่เหมาะสมกับมนุษย์ออฟฟิศ เพราะอย่าลืมว่าชีวิตจริงมนุษย์ออฟฟิศทำงานอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม บ้างก็ทำงานอยู่ในกรอบของคอกเล็กๆ ที่เป็นกระจก
มนุษย์แม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสังคมค่อนข้างมาก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าธรรมชาติทั้งหลายเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด เพราะมนุษย์เองก็เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างที่บางคนเข้าใจ
ดังนั้น ใครก็ตามที่ทำงานออฟฟิศ ควรที่จะหันกลับมาสำรวจ แล้วหาสัปปายะทั้ง 4 ข้อ ให้เหมาะสมกับชีวิตของตัวเอง เพราะอย่างน้อยยังทำให้เกิดความสุขทางจิตวิญญาณได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ไม่มีมนุษย์คนไหน ที่สามารถอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมได้อย่างยาวนาน กลับกันภาวะที่เป็นสีเขียว นั่นเป็นสุขภาวะที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด อาทิ ต้นไม้ เป็นต้น
จงรีบกลับมาหาตัวเอง แล้วชีวิตจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแท้จริง