เมื่อหลายวันก่อนผมได้พบผู้ที่มีอาการเป็นโรคภาวะซึมเศร้าเพราะมีความเครียดสะสมอันเกิดจากบริบทแวดล้อมของเขานั้นมีแต่เรื่องราวลบๆ และกดดันชีวิตอยู่ตลอดเวลา
ความจริงแล้วการบำบัดผู้ที่มีโรคภาวะซึมเศร้านั้นไม่ใช่เป็นเรื่องยากเพียงแต่ว่าผู้ที่จะเข้าไปบำบัดจะต้องมีความเข้าใจในบริบทของผู้ป่วยท่านนั้นพอสมควร ประเภทที่อยู่ๆ แล้วบอกให้ปล่อยวางหรือบอกว่าให้เปลี่ยนวิธีคิดไปในทางเชิงบวก บอกได้เลยว่าคงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
กระบวนการที่สามารถทำให้ภาวะโรคซึมเศร้าคลายลงได้ค่อนข้างง่ายคือ การใช้หลักธรรมะของพระพุทธเจ้าเข้ามาเยียวยาเข้ามาดูแลและบำบัด
การที่ติดหล่มทำความคิดในภาวะลบบนอยู่เรื่อยๆ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไม่สามารถออกจากภาวะโรคซึมเศร้าได้โดยง่าย ดังนั้นกระบวนการแรกก็คือ ไม่ควรนำเรื่องราวลบๆ ไปเล่าให้กับผู้ที่มีภาวะโรคซึมเศร้าได้รับรู้ ถ้าคนรอบข้างสามารถทำแบบนี้ได้ใน 1 เดือนภาวะโรคซึมเศร้าก็จะค่อยๆ คลายจางลง
แต่สิ่งที่ผู้บำบัดควรแนะนำกับผู้ที่เสี่ยงภาวะโรคซึมเศร้าหรือเป็นโรคซึมเศร้าแล้วนั้น พึงกระทำก็คือพยายามให้เขาอยู่กับตัวเองให้มากและหากิจกรรมที่อยู่กับตัวเองทำให้มาก อาทิ เช่น สวดมนต์ นั่งภาวนาสมาธิ
แต่ถ้าเขาไม่มีภาวะพร้อมมากพอที่จะทำในสิ่งที่กล่าวมา ลองให้เขาอยู่กับตัวเองเงียบๆ นั่งก็ให้เงียบเดินก็ให้เงียบจะกินจะอยู่จะทำอะไรก็ให้เงียบให้หมด นั่นจะเป็นการฝึกสติของเขาให้อยู่กับตัวเองและมีความระมัดระวังทำสิ่งใดๆ ไม่ให้เกิดเสียง ผมเรียกสิ่งนี้ว่า "กรรมฐานเงียบ"
ผู้ป่วยบางคนไม่ถนัดในการทำกิจกรรมทางด้านศาสนา แต่พอได้ทำสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานการบ้านการเรียน เช่นซักผ้าถูบ้านรีดผ้ากลับมีภาวะผ่อนคลายมากขึ้น แท้จริงแล้วการรีดผ้าก็คือการจดจ่อทำให้เกิดสมาธิอย่างหนึ่ง แต่เป็นสมาธิในการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นสมาธิที่พระพุทธเจ้ายกย่องอยู่ในหลักของมหาสติปัฏฐาน 4 คือการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน ให้มีสติ
ดังนั้นการปฏิบัติธรรมเพียงแค่เราใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีสติตลอดเวลา ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องนุ่งขาวห่มขาวอยู่วัดอยู่วาใดๆ ก็ได้เพราะนั่นเป็นแค่เพียงรูปแบบทางด้านพิธีกรรมมากกว่า การมุ่งเน้นไปในทางปฏิบัติ
ภายใน 3 สัปดาห์ถ้าผู้ป่วยภาวะโรคซึมเศร้ามีความตั้งใจอย่างแท้จริงในการที่จะบำบัดดูแลตัวเองสิ่งแรกเลยคือ
1. งดการรับรู้เรื่องภายนอกที่เป็นเรื่องลบทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องของตัวเองที่ผู้อื่นพูดถึงหรือเรื่องของผู้อื่นก็ตาม เราต้องขอความร่วมมือจากบุคคลรอบข้างว่าหยุดรายงานเรื่องลบใดๆ มาเล่าให้ฟังทั้งสิ้น นี่จะเป็นการบำบัดเบื้องต้นที่ดีมากและได้ผลเร็ว
2. หากิจกรรมทำที่อยู่กับตัวเอง บางคนก็อาจจะพึ่งกิจกรรมทางด้านศาสนาของตน อาทิ สวดมนต์ นั่งสมาธิภาวนา
3. พยายามอยู่กับตัวเองให้มากอาจจะอาศัยกิจวัตรประจำวัน เช่นซักผ้าถูบ้านรีดผ้า อยู่แบบเงียบๆ ทำอะไรก็เงียบๆ ก็สามารถดึงสติอยู่กับตัวได้
4. พยายามฝึกมองทุกเรื่องราวทุกเหตุการณ์ที่เรามองเห็นรับรู้ให้เป็นมุมบวกให้มากขึ้น ก็จะสามารถคลายความเครียดความกังวลใจลงได้เป็นลำดับ
5. ควรเดินทางไปพักผ่อนในที่ต่างๆ บ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวอันอิงกับธรรมชาติจะสามารถช่วยบำบัดให้คลายภาวะโรคซึมเศร้าได้ลงอย่างฉับพลัน
จุดเริ่มต้นของภาวะโรคซึมเศร้าเกิดขึ้นจากจิตใจมิได้เกิดขึ้นจากเคมีในสมอง เหมือนโรคอื่นๆ ก็หาไม่ แต่เมื่อเป็นมากเข้านานเข้าก็อาจจะซึมลึกไปถึงเรื่องของเคมีในสมองได้
มโน แปลว่าจิตใจ ถ้าเราสามารถปรับเปลี่ยนได้ชีวิตของเราก็จะมีแต่ความสุขและเป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากภาวะใจของเราเองเกิดขึ้นจากวิธีการคิดที่เปลี่ยนไปของเราเอง
เพราะมนุษย์เราทั้งหลายต่างที่ความคิดชีวิตจึงแตกต่าง