ศีลเสมอแล้วเจอกัน ไม่เป็นความจริง

ได้ยินคำสอนที่ออกมาจากพวกโค้ชบางคน กล่าวอ้างถึง คำสอนของพระพุทธเจ้า โดยหยิบเอาประโยค ต่างๆ ที่มีนัยยะลึกซึ้งจากคำสอนไปย่อเหลือเพียงแค่ว่า "ศีลเสมอแล้วเจอกัน"

แม้กระทั่งพระบางรูปก็ยังเอาประโยคนี้ ไปตอกย้ำบอกกับญาติธรรมในสำนักของตัวเอง ซึ่งถ้าเราจะพูดแค่เพียงว่า ศีลเสมอแล้วเจอกัน เป็นการพูดความจริงแค่เพียงครึ่งเดียว ยิ่งมีการสื่อสารที่ไปบอกว่า 

"การที่เราได้พบได้เจอกันในวันนี้ เป็นเพราะเรามีศีลเสมอกัน" 

ประโยคนี้ยิ่งเป็นการสื่อสารที่ผิด เป็นการสื่อสารที่กล่าวตู่คำสอนของพระพุทธเจ้า การพูดแบบนี้นับว่าเป็นบาปอย่างยิ่ง เพราะบิดเบือนคำสอนอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า กลับหน้ากลับหลัง

เพราะการที่สื่อสารเช่นนี้เอง จึงทำให้ธรรมะคำสอนในข้อนี้ ทำให้ผู้คนเข้าใจกันว่า เพราะวันนี้ ที่นี่ เดี๋ยวนี้ คุณมีศีล ฉันมีศีล เท่ากัน จึงได้เจอกัน

แต่ความจริงแล้วธรรมะคำสอนในเรื่องนี้ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องเข้าใจก่อนว่า การที่เราพบเจอกันในวันนี้ ไม่ใช่เพราะวันนี้เรามีศีลเสมอกัน แต่เป็นเพราะเรามีศีลเสมอกันมาตั้งแต่อดีตชาติ ย้ำนะ ตั้งแต่อดีตชาติ วันนี้เราจึงได้มาพบกัน กล่าวอย่างนี้จึงจะถูกต้อง

แต่ถ้าบอกว่าเป็นเพราะปัจจุบัน คุณกับฉัน มีศีลเสมอกันแล้วจึงได้เจอ อันนี้เป็นคำมุสา เป็นการบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างยิ่ง และที่สำคัญ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขากับเรามีศีลเท่ากันเสมอกัน เพราะไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมอยู่ด้วยกัน พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าอยากจะรู้ว่า ใครมีศีลหรือไม่ ต้องอยู่ด้วยกันนานๆ คบกันนานๆ ถึงจะรู้

ธรรมะข้อนี้พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ชัดเจน ว่าเพราะมีศรัทธาเสมอกัน เพราะมีจาคะเสมอกัน เพราะมีปัญญาเสมอกัน และเพราะมีศีลเสมอกันมาตั้งแต่อดีตชาติ จึงทำให้เราได้มาพบกันในปัจจุบันนี้ และถ้าในปัจจุบันเรายังมีศีลเสมอกันอีก เมื่อผ่านพ้นไปในการข้างหน้า สัมปรายภพเราก็จะได้พบกันอีกเช่นเดียวกัน

นี่คือเนื้อความอันชัดเจน ความหมายอันลึกซึ้ง ที่ถูกต้องเป็นแบบนี้ และเหตุปัจจัย ที่จะทำให้เราได้พบกัน มิใช่แค่เพียงเรื่องศีลอย่างเดียวที่เสมอกันแล้วเราจะได้พบกัน ถ้าใครพูดแค่ว่าเพราะศีลเสมอกันจึงพบกัน นั่นคือคำพูดของคนไม่มีความรู้ ในด้านธรรมะอย่างถ่องแท้ เป็นการกล่าวตู่คำสอนของพระพุทธเจ้า พูดความจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะตามที่ได้กล่าวมา การพบเจอกัน ประกอบไปด้วย ทั้งศรัทธา ทั้งการบริจาค ทั้งปัญญา ทั้งมีศีลเสมอกัน ที่มีความเสมอกันมาตั้งแต่อดีตชาติ ในปัจจุบันจึงได้มาพบมาเจอกัน

ดังนั้น ถ้าคุณพบเจอบุคคลใดที่กล่าวว่า เพราะเรามีศีลเสมอกันวันนี้เราจึงได้มาพบกัน จงบอกเขากลับไปว่า คุณเข้าใจผิดแล้ว เพราะตามหลักความเป็นจริงจะต้องมีครบทั้ง 4 เหตุปัจจัยตามที่กล่าวมา

บรรดาพวกโค้ชทั้งหลาย ที่มักจะกล่าวคำว่าศีลเสมอแล้วเจอกัน จึงเป็นการกล่าวตู่คำสอนของพระพุทธเจ้า และไม่ใช่ความจริงแต่ประการใด เพราะองค์ประกอบไม่ครบตามที่กล่าวมา อย่างไรเสียก็ไม่มีทางที่จะได้มาพบเจอกันในวันนี้ และได้ใช้ชีวิตร่วมกันไม่ว่าจะทั้งที่บ้านครอบครัว หรือที่ทำงาน

ธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่เป็นเอนกอนันต์ ผู้ใดใครที่บิดเบือน ย่อมจะพบกับหายนะไม่ช้าก็เร็ว เพราะคำสอนของมหาบุรุษของโลกนี้ คือความจริงที่เป็นหนึ่งเดียว ไม่มีความจริงใด ที่จะเข้ามาแทรกแซงได้ ไปตลอดกาล