อ๊อบโพสิท กะเพราอกเป็ดอบควันอ้อย

04 มี.ค. 2566 | 01:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 14:33 น.

อ๊อบโพสิท กะเพราอกเป็ดอบควันอ้อย คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

วันนี้รุ่นเล็กมีนัดงานข่าวที่แถวกระทรวงคมนาคม ถนนราชดำเนิน ออกเดินทางมาด้วยกัน เขาจึงชวนมาชิม/กินมื้อเที่ยงรอเวลาได้นัดที่ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ชื่อ ‘ดิ อ๊อบโพสิท’ ซึ่งซ่อนตัวอยู่อย่างสงบบนถนนพะเนียง ในบ้านสถาปิตะเวสม์ ข้างวัดโสม (นัสราชวรวิหาร)
 
กลางวันวันนี้ผู้คนไม่ทราบมาจากไหนแน่นขนัดไปหมด ไม่จองมาก็ไม่มีโต๊ะข้างในต้องหาที่นั่งรอบนอก เอ้า, ไม่เป็นไร เปิดมาจานแรกระหว่างรอข้าวก็รองท้องด้วยขนมเสียก่อน เครปเค้กชาไทย ทำได้ดีเลยทีเดียวไม่หวานมากแต่รสชาติเข้ม วัตถุดิบใช้ของดีทำ กินสบายปาก
 
ต่อมาจึงถึงจานสำคัญข้าวสวยกับกระเพราอกเป็ด รุ่นเล็กดิจิตอลอย่างธนทรัพย์ จามีกร ตักชิมเข้าปากตัวเองไป เคี้ยวสองทีถึงกับมองหน้า ว่าอกเป็ดนี่ไม่ธรรมดา เขาเอามาผัดแบบเชฟด้วยซอสกะเพรากรอบ มันคืออะไรยังไง?

จึงได้เวลาอรรถาธิบาย ว่าอีเป็ดพรรค์นี้นั้น พวกซัวเถาแต้จิ๋ว เอามาแต่เมืองฮับซัว เขาใช้เป็ดทั้งตัวเลาะมันออกผ่าแบะแล้วแผ่เเบบกีตาร์ ทาด้วยเครื่องยาจีนหอมๆเข้าซอสถั่วเหลือง น้ำส้มหมักนิดและน้ำตาลทรายแดง จากนั้นจึงแขวนผึ่งลมไว้เปนวันให้แห้งดี
 
อีทีนี้เขาก็ติดเตาถ่าน สุมไฟให้แดงแล้วจึงเอาอ้อยสดทั้งต้นหั่นท่อนๆ สุมหน้าถ่านแดงนั่นอีกที นาทีนี้ก็จะเกิดควันร้อนๆหวานหอมพลุ่งขึ้นตลบอบอวลรมไปตัวเป็ด
 
เจ้าพนักงานผู้ย่างรมแกจะคอยพลิกเป็ด คอยไล่ไฟให้ได้จังหวะดี จนกว่าจะได้ที่ออกมาเปนเป็ดอบ(ควัน)อ้อย รสชาติ เค็มหวาน หอมหวล

ทั่วๆไปแล้วเป็ดรมควันอ้อยสดซื้อมาก็เอาเถือกินได้เลย ผู้ดีโผวเล้ง นิยมฝานส้มฝรั่งลูกโตๆน้ำฉ่ำแนมกินไปด้วย ได้รสเปรี้ยวหวานหอม กินอย่างว่าออเดิร์ฟ เรียกน้ำย่อย อร่อยกับเมรัยกลั่นชนิดน้ำใส ที่เยาวราชมีขายทั่วไปตามร้านของฝาก เจ้าที่ได้รับความนิยมเช่น ‘ลิ้มจิงเฮียง’ ส่วนที่เมืองมีน ยังมีโรงอบเป็ดด้วยอ้อยสดอยู่ชื่อ ‘แป๊ะแค’ ถนนสีหบุรานุกิจ ซอย 9
 
ถัดมานี้ รุ่นเล็กอยากสื่อสารมายังท่านผู้อ่านตามนโยบายบรรณาธิการบริหาร ให้เปนแพลตฟอร์มทุกรุ่นทุกวัย “อาหารจานเดียวของทีนี่เหมาะกับช่วงเวลาเร่งรีบยังมีเมนูอร่อยอีกจานก็คือ สปาเก็ตตี้ซอสครีมไข่กุ้ง ที่ทำออกมาได้รสชาติกลมกล่อมลงตัวเส้นไม่บานไม่แฉะ และ แผ่นข้าวโพดกรอบทาโก้ที่ท็อปมาด้วยกุ้งตัวโต พร้อมซอสต้มยำที่ทำออกมาในรูปแบบครีมมี่หน่อยๆ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ถือเป็นการผสมผสานอาหารเม็กซิกันเข้ากับอาหารไทยได้ลงตัวเลยทีเดียว รับประทานเพลิน


 
หลังจากทานของคาวแล้วก็ต้องต่อด้วยของหวาน (แม้ตอนต้นจะทานเครปเค้กชาไทยแล้ว แต่ร้านนี้มีขนมให้เลือกหลายเมนูเราจึงต้องลองกันต่อ) ซึ่งอีกเมนูที่ผมจะแนะนำก็คือ บานอฟฟี่ ซึ่งเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆด้านในอัดแน่นด้วยกล้วยหอมสุกกำลังดีที่ยังเป็นชิ้นๆไม่เละ ตัวคุกกี้ด้านล่างก็ทำออกมาได้ดี โดยรวมรสชาติอร่อยไม่หวานเกินไป รับประทานกับกาแฟดำร้อนเย็นตัดรสลงตัวเลยครับ

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18ฉบับที่ 3,867 วันที่ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2566