ไชยโรจน์ ต้มยำขาหมู &งานทอดยอดฝีมือ

11 มี.ค. 2566 | 06:23 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 14:06 น.

ไชยโรจน์ ต้มยำขาหมู &งานทอดยอดฝีมือ คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

วันนี้รุ่นใหม่เขาอ่านคอลัมน์ตามรอย joie de la cuisine  มาถึงตอน โต๋ว ต้มยำกุ้งคลาสสิก บ่นให้ฟังว่าเห็นมีการกล่าวถึงร้านไชยโรจน์ ตีนกระไดรถไฟฟ้าพญาไทในตอนนั้น อยากจะไปทดลองชิมทำรีวิวมารายงานท่านผู้อ่าน สมควรจะทดลองจานไหนๆกันบ้าง
 
เอ้า ลายแทงก็มีดังนี้
 
ไชยโรจน์เปนร้านไหหลำทำกับข้าวกุ๊กช็อป สไตล์พิเศษคือปรับจูนเข้าสู่กับข้าวไทยมากกว่าร้านอื่น เขาเปนยอดฝึมือแห่งการทอดอาหารได้แห้งแต่ไม่ผาก ไม่ออกมาเปนกระดาษ ทั้งยังคงรสชาติไว้ได้ดิบดี

งานทอดเนื้อสัตว์สไตล์กุ๊กช็อปไชยโรจน์นี้ ต้องท้าวความไปในยุคอดีตที่การประมงและปศุสัตว์ยังล้าหลังอยู่ เนื้อสัตว์ไม่สุกมีอันตรายแอบแฝง ไก่ทอดที่กระดูกช้ำเลือด แม้ข้างนอกสุกข้างในนุ่มตามตำราประสาฝรั่ง เจ้าขุน เจ้าคุณ และมูลนาย ไม่เสวยเด็ดขาด มันพาโรคาพาธมาสู่กระเพาะและลำไส้ 
 
ของทอดในยุคนั้นจึงต้องอาศัยฝีมือ ทอดเจี๋ยน และเลี้ยงไฟถ่านคุกกรุ่นรังสี ของดีที่อร่อยมากๆ ก็คือปลาจาละเม็ดทอดกรอบ จิ้มน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวยำ ไชยโรจน์มีเคล็ดสำคัญใช้พริกเขียวยาวทุบ แต่ไม่หั่น/บด ใครใคร่เคี้ยวพริกนี้เสริมรสเลือกเขี่ยได้ตามใจ ไหนจะเนื้อเค็ม ที่หากินยาก เอาทำแดดเดียว ทอดด้วยฝีมือที่ว่า จิ้มซอสพริกสกุลศรีราชารสแจ่ม
 
ส่วนต้มยำนั้น นอกจากเขาใช้เห็ดดอกตูมๆทำน้ำใสขบแตกในปาก ประหลาดที่ไชยโรจน์ใช้เนื้อข้อขาหมูย่างไฟทั้งหนังหั่นใส่มา เปรี้ยวเค็มเผ็ดชื่น อร่อยปากลงตัว

เครื่องผัดของเขานั้นมีผัดใบกะเพรา ผัดพริกแห้ง ผัดน้ำพริกเผา สมควรสั่งมาลองเทียบกันให้ชัดแจ้งงานวิจัย ว่าทำไมมันเอร็ดอร่อยไปได้เสียทุกจาน อ้อ ไม่ควรลืม คือผัดเขียวๆผัดน้ำมัน ที่โบราณท่านว่า น้ำมันผัดผักที่ดีที่สุด คือน้ำมันที่เพิ่งใช้ทอดปลาเสร็จใหม่ๆ ไชยโรจน์ทำอย่างไรไม่รู้ ใช้น้ำมันทอดปลารึเปล่าไม่ทราบ รู้เเต่ไฟเขาถึง กลิ่นเขาถึง 
 
เมื่อก่อนผู้ใหญ่วงการโฆษณา คิดไรไม่ออกตกเย็นก็นั่งกินกุ้งพล่า แนมน้ำขมฟองอำพัน ข้างกันนั้นเปน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กินลิ้นวัวทอดกระเทียม แนมเต้าหู้ราดพริกในขณะที่ประธานบริษัทคนญี่ปุ่น กินสลัดเนื้อสัน แกล้มพอร์คช็อปราดซอสถั่วลันเตา
 
คราวนี้ปัจจุบันเปนอย่างไร ขอส่งไม้ให้ ธนทรัพย์จามีกร รีวิวอัพเดตแด่ท่านผู้อ่าน


 
ไชยโรจน์ ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 70ปี ตั้งอยู่บนถนน ศรีอยุธยา ติดริมถนนเลย โต๊ะเก้าอี้ต่างๆยังเป็นสไตล์คลาสสิกๆที่เรียกกันว่า เก้าอี้ เช็กโก คนรุ่นใหม่หรือหนุ่มสาวที่เรียนโรงเรียนกวดวิชาแถวพญาไทอาจจะยังไม่เคยลิ้มลองกัน 
 
แต่ผมต้องขอบอกเลยครับว่าที่นี่นั้นมีเมนูเด็ดมากมายที่หากท่านผู้อ่านได้ลองรับประทานแล้วจะติดใจ เมนูแรกที่ผมจะแนะนำก็คือ ปลาดุกผัดใบกระเพรา ซึ่งตัวปลาดุกหั่นชิ้นทอดกรอบๆทำออกมาได้กรอบจนน่าตกใจ ถึงขนาดกัดไปแล้วเสียงดังกร็อบบบ และรสชาติก็ทำออกมาได้พอดิบพอดี ฉุนหอมร้อนพริกไทยสดพวงๆ เผ็ดเค็มกลมกล่อมที่สำคัญ ไม่มีคำว่าเเฉะ แปลกดีมากๆ
 
อีกเมนูที่คล้ายกันแล้วก็อร่อยไม่แพ้กันเลยก็คือ หมูกรอบผัดน้ำพริกเผา กรอบแน่น ไม่แฉะอีกสองเมนูที่ผมอยากจะแนะนำมากเพราะปัจจุบันหาทานยากแล้ว ก็คือพอร์คชอป ที่ทำมาสไตล์กุ๊กช็อป หมูทอดมานุ่มกรอบนอกราดมาด้วยนำ้ซอสเกรวี่สุดเข้มข้น ตัวหมูยังฉ่ำนุ่มใน  และสตูลิ้น(วันนี้ลองลิ้นหมู) ซึ่งทำออกมาได้นุ่มมากจนแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย
 
แล้วก็เลยเทียบไปถึงไก่ผัดพริกแห้งเม็ดทะม่วงหิมพานต์ รสชาติน่าสนใจ กินกับต้มยำน้ำใสรสชาติลงตัวมากๆ กับข้าวสวยร้อนๆตรางูสองตัว(เจ้าของร้านท่านบอกยี่ห้อ)
 
มาที่เมนูของหวานกันบ้างครั้งนี้ผมสั่งเป็นไอติมกะทิ ท็อปมาด้วยข้าวโพด ตัวไอติมรสชาติหวานกำลังดี หอมนุ่มละมุน รสชาติกลมกล่อม ล้างปากได้วิเศษมากเลยครับ

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18 ฉบับที่ 3,869 วันที่ 12 - 15 มีนาคม พ.ศ. 2566