ก่อนหน้าที่บ้านเมืองของเราท่านจะพัฒนานำสมัยในการส่งออกนำเข้าตามกระแสโลกาภิวัตน์กันอย่างสะดวกดาย ปวงเขา ซาโจ้ (ประธานกรรมการ) กิจการห้างร้านญี่ปุ่นในเมืองไทย ต่างประดาพากันขับขี่อัครสถานยานยนต์ โตโยต้า คราวน์ , นิสสัน เซ็ดดริก มาชุมนุมสุมมิตร กันที่ภัตตาคารฮานาย่า สี่พระยา บางรัก
ซึ่งทางเข้าอาจจะแลดูลึกลับสักนิด แต่ข้างในอัครฐานกว้างขวางเด็ดเดี่ยว ณ ทีนี้ ครอบครัววะตะนุกิ ให้บริการอาหารรสแท้ของจังหวัดคาโตชีงะ ตอนใต้ของญี่ปุ่น มากว่าสามชั่วคนแล้ว
ทายาทรุ่นสามที่เติบโตเกิดที่ประเทศไทย เรียนโรงเรียนญี่ปุ่นในไทย และได้ไปเรียนต่อเชฟที่บ้านคุณพ่อในจังหวัดนีงาตะ หลังกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น เขาตั้งใจสานต่อกิจการของครอบครัวแบบไม่ลังเล ว่ากันว่าฮานาย่าไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่มีสิ่งที่ส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่นจนลูกค้าที่เคยกินเมื่อวัยเด็กก็ยังกลับมากินในวัยเกษียณ นั่นก็คือ การทำให้ลูกค้า ‘กินแล้วมีความสุข กินแล้วสบายกระเป๋า’ _เอากะเขาสิ
ของเอร็ดอร่อยที่ต้องยกนิ้วให้ คือ ของต้ม ของที่นี่ ในชามของต้มของเขาอัดแน่นไปด้วยหน่อไม้สดหวานหอม หัวบุกหนึกนุ่ม น้ำซุปหอมกลิ่นปลาแห้งตักชิมแล้วท่านจะสดใสกาววาวในปาก โดยเฉพาะวันไหนของต้มประจำวันมีฟักทองอยู่ด้วยล่ะก็ ห้ามพลาดเนื้อสัมผัสอันเรียบง่ายล้ำลึกของพืชผลชนิดนี้ด้วยฝีมือฮานาย่าเปนอันขาด
เด่นอีกจานคือปลากระพงสดฝานบางๆ รับประทานกับพอนซึเปรี้ยวชื่น มีหนังปลาหั่นซอยมาให้กินกรุบกรับ แนมไชเท้าขูดพริกดอง ใบหอมซอย เต้าหู้ทำเองสะเด็ดน้ำแล้วกินกับสาหร่ายโนหริหอมมันปลาโอแห้งขูด และขิงสดฝนกับไชเท้า รสสดชื่น
อาหารชุดประจำวันก็เปนอะไรที่มีเสน่ห์มาก ร้านอาจได้ปลาหางแข็งจับสดมาได้ในตระกูลปลาแมคเคอเรล ก็มาพรมเกลือย่างถ่าน หมูสามชั้นต้มขิง มิริน น้ำตาลกรวดและโชยุ
เดิมที ฮานาย่าเน้นวัตถุดิบสดใหม่ในไทยตามปรัชญาของสดๆจะดี ข้าวสวยทั้งหมดจึงเปนข้าวหอมมะลิ!
‘เราเปลี่ยนมาใช้ข้าวญี่ปุ่นที่ปลูกในไทยเมื่อสามปีก่อน’ เนื่องเพราะข้าวญี่ปุ่นที่ปลูกในไทยเริ่มมีคุณภาพดีขึ้น ก็เลยหันมามองข้าวญี่ปุ่นที่ปลูกในไทย
“เราใช้เวลาหนึ่งปีในการเอาข้าวไทยและญี่ปุ่นมาปรับผสมกัน จนสามปีก่อนปรับมาใช้ข้าวญี่ปุ่นร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าถามว่าข้าวญี่ปุ่นกับข้าวไทยต่างกันไหม คนบอกกันว่าข้าวหอมมะลิจะมีกลิ่นหอม แต่ผมเกิดที่ไทย ก็กินได้หมด (หัวเราะ) จุดนี้เราจึงปรับตามลูกค้า พอปรับมาเป็นข้าวญี่ปุ่น ลูกค้าก็ฟีดแบ็ก ว่าข้าวอร่อยขึ้น เราก็ดีใจ มีความมั่นใจมากขึ้น” รุ่นที่สามกล่าวไว้
ของเท่ๆเช่น เบค่อนปลาวาฬ มีบ้างไหมท่านที่ไปควรได้ลองแวะถามไถ่กันดู ส่วนมันปูทั้งกระดองมีแน่ๆ ครีบกระเบน กินกับสาเกก็พร้อม อิ่มคาวแล้วจะต่อหวานขออนุญาตแนะนำ
‘แป้งโมจิห่อใส่คัสตาร์ดครีม’ (Sasa Custard) ทำจากแป้งโมจิใสๆ สัมผัสเหนียวนุ่ม ข้างในเป็นไส้คัสตาร์ด แหม่รสชาติเขามัน/หวานกำลังดี
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18 ฉบับที่ 3,873 วันที่ 26 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2566