วันนี้ (17 ธันวาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
สำหรับร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เป็นการกำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อเป็นไปตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 กำหนดจำนวนคนต่างด้าวที่มีสัญชาติของแต่ละประเทศ ซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรเป็นรายปี ประเทศละไม่เกิน 100 คนต่อปี และไม่เกิน 50 คนต่อปี สำหรับคนไร้สัญชาติ
ทั้งนี้การออกประกาศดังกล่าวเป็นการออกประกาศรายปีและดำเนินการทุกปี เพื่อให้คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในแต่ละปีสามารถยื่นคำขอมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยต่อไป เมื่อคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว ไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อพำนักอยู่ต่อเป็นการชั่วคราวในแต่ละปีอีก
พร้อมกับมีสิทธิยื่นคำขอแปลงสัญชาติให้เป็นสัญชาติไทยได้ รวมไปถึงบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรโดยเกิดจากการสมรสของบิดามารดาซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร บุตรนั้นย่อมมีสิทธิได้รับสัญชาติไทยตามหลักดินแดนอีกด้วย ถือเป็นการส่งเสริมให้คนต่างด้าวเข้ามาลงทุนและทำงานในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุน อีกทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ครอบครัวมีความมั่นคงและอบอุ่น การให้ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแก่คนต่างด้าว จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย