*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3563 ระหว่างวันที่ 19-22 ก.พ.2566 โดย...กาแฟขม
*** สถานการณ์การเมืองกำลังเข้าสู่ฉากจบของซีรี่ส์ยาวเต็มที ห้วงเวลานี้ ด้วยเหตุใกล้ครบเทอมหมดวาระสภาฯ 4 ปี เลือกตั้ง พ.ค. เป็นแม่นมั่น สถานการณ์ของ “นายกฯ ลุงตู่” อยู่มา 8 ปี (นับแค่ 6 ปี) มาถึงทางไปต่อ หรือพอแค่นี้ แม้จะขึงขังไปต่อในนามค่ายรวมไทยสร้างชาติ แต่ประเมินกันนาทีนี้ จำนวนมือ ส.ส. ที่จะได้ ว่ากันว่าน้อยกว่า “ลุงป้อม” ค่ายพลังประชารัฐ เห็นๆ ไม่พอเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่จำนวน 25 คนด้วยซ้ำ ฝ่ายเสนาธิการประเมินแล้ว ประเมินอีก นับแล้ว นับอีก ดูดแล้วดูดอีก ยังไม่เข้าเป้า และห่างไกลโขอยู่กับการสานฝันดัน “ลุงตู่” อีกสักยก แว่วว่าเจ้าตัวก็คิดแล้วคิดอีกเอาไงดี ฉากจบของเรื่องจะเป็นอย่างไร ประตูพอแล้ว ก้าวลงอย่างสง่างามใช่ว่าจะปิด หรือ ประตูไปต่อมุ่งหน้าฝ่าฟันบุกบั่นห้วงเหวลึก แม้จะริบหรี่คัมแบ็ก หากประเมินจากโพลล์ต่างๆ ที่ยังไม่กระเตื้อง คะแนนส่วนตัวพอไหว แต่พรรคไม่มีคะแนนนี่อะสิ ลำบาก ไม่กี่วันก็รู้
*** ข้างฝ่าย “ลุงป้อม” นาทีนี้ฟิตเต็มพิกัด มีทั้งใจบันดาลแรง แรงบันดาลใจ ใส่เต็ม 100 ไม่ถอยให้ใคร หลังจากตรึงบ้านใหญ่เต็มพิกัดได้อยู่หมัด ด้วยวิธีต่างๆ นานา ทั้งซื้อใจ ทั้งอะไรลุงทุ่มเต็มที่ ล็อกแขน ล็อกขาก็ทำ เมื่อตรึงเสร็จ ก็เริ่มโหมกิจกรรม ไปจังหวัดโน้น มุดบ้านคนนี้ มีเรี่ยวแรงแข็งปั๋ง กุนซือให้ทำอะไร “ลุง” ไม่เกี่ยง ภาพลุงที่ใครก็มองแก่เหลาเหย่ มีคำถามไหวหรือ ก็ค่อยจางลง จะทำไงได้มีหน้าที่ในการลากผู้อื่นไปต่ออีกหลายคน ก็นั่งลงจัดทัพแบ่งงานกันใหม่ดูไฉไลขึ้น ลุงลุยจัดการเอง ใครทำตรงไหนอย่างไร ดูแลเบ็ดเสร็จ แต่ในพรรค หลายก็ก หลายพวก ก็คุกรุ่นกันอยู่ ต้องดูบารมีลุง ต้องไม่ลืมนักการเมืองพวกนี้เขี้ยวลากทั้งนั้น
*** ผลงานใคร โบว์แดง หรือ โบว์ดำ เมื่อครม.เห็นชอบการเข้าร่วมเจรจาจัดทำ FTA กับ สหภาพยุโรป และกรอบการเจรจา FTA ไทย - สหภาพยุโรป ครอบคลุม 20 หัวข้อ เช่น การค้าสินค้า การลงทุน พิธีการศุลกากร และการอำนวยความสะดวกทางการค้า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์/การค้าดิจิทัล ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขยายโอกาสทางการค้า และการลงทุนและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย รักษาความสามารถในการแข่งขันและส่วนแบ่งตลาดสินค้าของไทยในตลาดยุโรป ช่วยปรับโครงสร้างภาคการผลิต และบริการของไทยไปสู่การผลิต และบริการใหม่ที่มีศักยภาพ ทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น “นายกฯ ลุงตู่” บอกว่าสืบเนื่องจากการไปประชุมอาเซียน-ยุโรป (อาเซ็ม) ที่ได้เปิดประตูไว้ ข้างฝ่าย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ ก็บอกว่าลุยเจรจามาตั้งแต่ต้น เป็นยุทธศาสตร์ด้านการค้าที่ริเริ่มมา
*** ว่าไปแล้วการเจรจาเอฟทีเอ ไม่ว่ากรอบไหนจะยากเสมอ โดยเฉพาะถ้ามาจากฝั่งยุโรป สหรัฐ ที่ระดับของการพัฒนาแตกต่างจากเรามาก และมักมีมาตรฐานสูง เปิดเสรีไม่ค่อยจะให้มีข้อสงวน หรือเปิดๆ ปิดๆ อันนี้ต้องไปดูในรายละเอียดกันในข้อเจรจาต่อไป ถ้าเป็นสถานการณ์ทั่วๆ ไป กลุ่มเอ็นจีโอเข้มแข็งเหมือนในอดีต กระโดดออกมาต้านกันวุ่นแล้ว ยังไม่ต้องถึงขั้นปิดรอบเจรจา แค่อนุมัติเปิดกรอบก็โดนตุ๊ยแล้ว โดยเฉพาะเรื่องยากๆ อย่าง ยา การเข้าถึงยา สิทธิบัตรยา ที่เป็นข้อกังวล แต่ทุกวันนี้อาจมีกรอบเจรจาเรื่องนี้แยกมาต่างหากในเวทีระดับโลกไปแล้ว ก็อาจจะเบาลงหน่อย รวมทั้งปลายสมัยรัฐบาลจะเข้าสู่การเลือกตั้งกันแล้ว เดี๋ยวค่อยมาว่ากันใหม่ก็เป็นไปได้ และนี่ยังแค่เปิดเจรจา เหลือเวลาระหว่างทางอีกนานกว่าจะได้ข้อสรุป
*** อันนี้ไม่รู้ป้องกันได้มากน้อยแค่ไหน ครม.เห็นชอบ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่จะอายัดบัญชี และธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บัญชีม้าได้เร็วขึ้น โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้า ที่น่าสงสัย ระหว่างสถาบันการเงิน หรือ ผู้ประกอบการ ที่เก็บข้อมูลบัญชีเงินฝากหรือธุรกรรม กับ ผู้ประกอบการโทรศัพท์ ผ่านระบบกลาง หรือ แลกเปลี่ยนข้อมูลที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมสอบสวนคดีพิศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นชอบร่วมกัน กรณีเหตุสงสัยให้ สตช. ดีเอสไอ หรือ ปปง. มีอำนาจสั่งให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และจัดส่งข้อมูลดังกล่าวภายในระยะเวลาที่กำหนด สถาบันการเงิน หรือ ผู้ประกอบธุรกิจพบเหตุต้องสงสัย ว่าอาจมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ การกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ให้ระงับการทำธุรกรรมนั้นไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 7 วัน กรณีผู้เสียหาย แจ้งไปยังสถาบันการเงิน เกี่ยวกับบัญชีที่มีความเชื่อมโยงให้ระงับการทำธุรกรรมนั้นไว้ชั่วคราว และแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 72 ชั่วโมง และยังมีเรื่องบทลงโทษผู้ให้เปิดบัญชีม้าด้วย
*** ปิดท้ายที่... เอสเอ็มอีกำลังเผชิญวิกฤติใหม่ หนี้เยอะ ขาดแคลนเงินทุน กู้ยาก ดอกแพง เจอรายใหญ่กลืน มีเจ้าหน้าที่รัฐรีดไถเรียกเงิน อันนี้สะท้อนมาจากผู้นำพรรคการเมืองที่ขึ้นเวทีอนาคตประเทศไทย SME จะไปทางไหน ? จัดโดยเครือเนชั่น ฐานเศรษฐกิจ เราจะจัดเวทีลักษณะนี้ไปตามแต่ละประเด็นสำคัญ เพื่อให้พรรคการเมืองเสนอนโยบาย จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ในอีกไม่เกิน 3 เดือนจากนี้ไป