วันที่ 8 มกราคม 2565 รายงานข่าวจากที่ประขุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ ว่า ที่ประชุมครม.มีมติรับทราบ ข้อเสนอผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แต่ไม่ได้พิจารณารายละเอียด
โดยครม.ให้กระทรวงมหาดไทย นำกลับไปจัดทำรายละเอียดตามความเห็นของกระทรวงคมนาคมมาก่อน แล้วค่อยกลับนำมาเสนอครม.ใหม่อีกครั้ง
โดย นาย สินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ว่า ครม.ให้เลื่อนการหารือในวาระนี้ ออกไปก่อน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปพิจารณา จัดทำรายละเอียดแล้วนำกลับมาเสนอใหม่อีกครั้ง
ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เดินออกจากตึกสันติไมตรี (หลังนอก)
แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ปักหลักรอระหว่างเดินผ่านทางเชื่อมระหว่างตึกสันติไมตรี กับตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกรัฐมนตรีขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที
โดยมีรายงานว่าภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยนอกรอบกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด้วยมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด
โดยนำเอกสารซึ่งคาดว่าเป็นรายละเอียดของโครงการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายหลังจากที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แต่ได้ให้ไปชี้แจงตอบคำถามกระทรวงคมนาคมให้ชัดเจนก่อนที่จะนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.ใหม่อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง
เวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติครม.ว่า ครม.มีมติรับทราบร่างสัญญาฯข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย แต่ครม.มอบหมายมหาดไทยกลับไปทำรายละเอียด โดยนำความเห็นของกระทรวงคมนาคมครั้งที่ 10 นำไปพิจารณา แล้วนำกลับมาเสนอครม.ใหม่อีกครั้ง
ด้าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ณ ตอนนี้ทางกระทรวงคมนาคม ยังต้องการให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งครม. มีมติให้ไปชี้แจงเพิ่มเติมข้อมูลและเสนอกลับเข้ามาใหม่
หลังจากที่กระทรวงคมนาคมมีหนังสือทักท้วงมา 4 ข้อ ก็ต้องไปชี้แจงและนำกลับมาเสนอใหม่
และวันนี้ที่ประชุมครม. ก็ได้มีการพิจารณาวาระดังกล่าว ไม่ได้เป็นการถอนออกไป เพียงแค่ให้เอาข้อมูลมาเพิ่มเติม และพิจารณาในที่ประชุมครม.ครั้งต่อไป