‘โอช้อปปิ้ง’เจอปัจจัยลบรอบด้านโตแค่10%

โอ ช้อปปิ้ง 9 เดือนยังโต 10% แม้พลาดเป้าหวังโต 30% จากปีที่ผ่านมาทำยอดขายกว่า 1,738 ล้าน ชี้ปัจจัยรุมรอบด้านทั้ง เศรษฐกิจและกำลังซื้อ ขณะที่ตลาดมีผู้เล่นรายใหม่ ปลายปียังคงเน้นรักษาระดับการเติบโต

นายซอง นัก เจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็ม เอ็ม ซีเจ โอ ช้อปปิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง แบรนด์ โอ ช้อปปิ้ง ในเครือจีเอ็มเอ็ม กรุ๊ป เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลประกอบการช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ดีถือว่ายังไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ ที่ต้องการสร้างการเติบโต 30% จาก ปีที่ผ่านมาโอ ช้อปปิ้งปิดยอดรายได้ 1,738 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพราะในปีนี้ปัจจัยภายนอกเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และกำลังการซื้อที่ลดลงของผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกทั่วไป และผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับผลกระทบทั้งหมด

ส่วนภาวะการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นของอุตสาหกรรมโฮม ช็อปปิ้ง นอกจากมีจำนวนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นอีก 1 รายแล้ว ยังมีปัจจัยการแข่งขันจากคู่แข่งอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบ เริ่มจากการเข้ามาของผู้ประกอบการทีวีช็อปปิ้งเจ้าใหม่นั้นทำให้เกิดการแข่งขันรุนแรงมีการนำเสนอสินค้าที่คล้ายคลึงกันและต่อสู้กันด้านราคา ผลดีอาจจะเกิดกับผู้บริโภคแต่ผลกระทบคือเมื่อตัดราคากันเองก็ไม่เหลือกำไรตามที่เหมาะสมได้ ผู้บริโภคเองก็เกิดความสับสนเพราะสินค้าค้ายคลึงกันเกิดไปทั้งรูปแบบ สีสันรวมถึงราคา

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเจ้าของสินค้านำสินค้าของตัวเองเพียงชนิดเดียวไปทำการตลาดร่วมกับดาราดัง จัดจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคเช่นเดียวกับโฮมช้อปปิ้ง ผู้บริโภคอาจจะสับสนกับผู้ประกอบการทีวีโฮมช็อปปิ้งได้ แล้วหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จะไม่เหมือนกับโฮมช้อปปิ้งที่มีช่องของตัวเอง 24 ชั่วโมงเหมือนว่ามีหน้าร้านที่มั่นคงชัดเจน ในระยะยาวอาจจะไม่ส่งผลดีกับธุรกิจโฮมช็อปปิ้งโดยภาพรวมได้เช่นกัน

“นอกจากปัจจัยที่เป็นภาพรวมทางเศรษฐกิจแล้ว ปัจจัยภายในกลุ่มอุตสาหกรมโฮมช้อปปิ้งเองก็ส่งผลกระทบเช่นกัน จากการได้พูดคุยกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็พบว่าธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ได้ดีอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้เช่นกัน”

สำหรับแนวทางการทำตลาด ช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถของทีมงาน เพิ่มจำนวนสินค้าและการผลิตรายการให้มากขึ้น และมีการทำการตลาดออนไลน์เพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นทำตลาดผ่านช่องทางทีวีด้วย แต่ปีนี้ยังไม่ได้มีการลงทุนใหม่เพิ่มเติม ขณะที่ไตรมาสสุดท้าย หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯเสด็จสวรรคต ประชาชนชาวไทยยังอยู่ในห้วงของความอาลัยต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ในมุมของผู้ประกอบการทีวี โฮมช็อปปิ้งรู้สึกโศกเศร้าเสียใจไม่ต่างกัน จึงได้หยุดออกอากาศเป็นเวลา 7 วันทุกช่อง

นายเจ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทจึงได้ยกเลิกกิจกรรมทางการตลาดที่เป็นลักษณะรื่นเริงสนุกสนานทั้งหมดด้วย ส่วนผลประกอบการช่วงปลายปี ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่คงไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นการประคับประคองให้พ้นช่วงเวลาแห่งความสูญเสียดังกล่าวไปก่อน จึงจะกลับมาวางแผนทางการตลาดอีกครั้งหนึ่ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,204 วันที่ 27 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559