จากการเดินทางเพื่อศึกษาพัฒนาพร้อมขยายเส้นทางธุรกิจในเมืองสำคัญต่างๆของโลก คือจุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณสุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง ไม่หยุดเส้นทางธุรกิจเฉพาะการเติบโตในฐานะบริษัทผู้ผลิตและส่งออกของเล่นไม้ ภายใต้แบรนด์“Wonderworld”แต่ยังต้องการมอบความสุขให้กับคนไทยด้วยการสร้างร้านช็อกโกแลตเล็กๆ ขึ้น เพื่อให้คนไทยได้รับรสความสุขที่มาจากขนมที่เต็มไปด้วยความหอมหวานในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม
การเริ่มต้นของร้านช็อกโกแลตเล็กๆ เกิดขึ้นราว 4 ปีก่อน บนกิโลเมตรที่ 11.8 ถนนธนะรัชต์ เส้นทางท่องเที่ยวของเหล่านักเดินทางและชาวกรุงผู้มุ่งหน้ามาพักผ่อน ณ จุดที่อากาศดีอันดับต้นๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อย่าง “เขาใหญ่” แต่แนวคิดการเป็นเพียงร้านเล็กๆ ได้เปลี่ยนไปเนื่องจากร้านอาหารชื่อดังที่สุดในเขาใหญ่ขณะนั้นปิดตัวลงพอดี คุณสุทธิชัยจึงเปลี่ยนแผนจากร้านขนมเป็นร้านอาหาร และตั้งเป้าให้ Chocolate Factory คือแลนด์มาร์กที่ต้องแวะของเขาใหญ่ เริ่มรังสรรค์รูปแบบอาคารที่สร้างความโดดเด่นและเรียกความสนใจให้กับรถทุกคันที่ผ่านไปมาด้วยอาคารสไตล์ Cozy modern กระจกใสรายรอบมองเห็นวิวมากกว่า 180 องศา โครงเหล็กสีดำขับความเคร่งขรึมกึ่งโครงสร้างของโรงงาน รับกับแสงอุ่นของไฟสีเหลืองละมุนที่ผ่านการออกแบบด้านแสงอย่างลงตัว การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายในอย่างอบอุ่น พร้อมจัดวางที่นั่งให้เลือกสรรทั้งแบบ indoor และ outdoorให้สามารถฟังเพลงเพราะๆ สไตล์คันทรีร่วมสมัย รับลมเย็นๆ สูดอากาศที่สดชื่นของเขาใหญ่ได้อย่างเต็มปอด
อาหารและเครื่องดื่มของที่นี่โดดเด่นไม่แพ้รูปโฉมภายนอก คุณกฤษ ผู้จัดการร้าน ChocolateFactory สาขาเขาใหญ่เล่าให้ฟังว่า เมนูของอาหารที่นี่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผสานกับบรรยากาศของเขาใหญ่เมนูส่วนใหญ่เป็นเมนูอาหารสไตล์ยุโรปและไทยฟิวชั่นรสเลิศ พร้อมกับราคาที่เข้าถึงได้ โดดเด่นสุดๆ ต้องยกให้กับพิซซ่าแป้งบางกรอบอบสดใหม่จากเตาหินส่งกลิ่นหอมฟุ้งดึงดูดทุกสายตาจนถึงโต๊ะอาหารฟัวกราส์ชิ้นขนาดพอเหมาะ ปรุงรสชั้นดีเสิร์ฟพร้อมกับซอสราสพ์เบอร์รี่รสเปรี้ยวหอมอร่อยสลัดอกเป็ดรมควันกับเนื้อส่วนอกหนานุ่ม ทานกับผักออร์แกนิคหวานกรอบจากเขาใหญ่ เพิ่มความสดชื่นด้วยรสเปรี้ยวและหอมอ่อนๆ จากบัลซามิกเดรสซิ่ง ต่อด้วยเมนูเมนคอร์สสุดพิถีพิถัน ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซี่โครงชิ้นโตที่ผ่านการตุ๋นและเคี่ยวนานกว่า 6 ชั่วโมง ผสานกับซอสบาร์บีคิวรสเข้ม หอมละมุนจนแทบทะลายในปาก เพิ่มรสชาติจัดจ้านด้วยสปาเกตตีขี้เมาที่เรียกว่าหนักเครื่องสะใจแบบสุดๆ
ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่มีให้เลือกละลานตา ทั้งBon bons chocolate มากกว่า 40 รสชาติ เค้กและเบเกอรี่อีกหลายสิบชนิดที่ Chef ERIC PEREZ เชฟขนมหวานชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ผู้ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Pastry Art & Design ให้เป็น 1 ใน 10 ของสุดยอดเชฟขนมหวาน และยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของร้านเข้ามาคิดสูตรและพัฒนารสชาติขนมหวานของร้านChocolate Factory ให้โดดเด่นสมกับการเป็นส่วนเติมเต็มที่หอมกรุ่นของวันพักผ่อนให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
อีกหนึ่งแรงดึงดูดสำคัญของร้านมิใช่แค่การเข้ามาทานอาหาร และเลือกซื้อขนมของฝากแต่คือการได้ชมการทำช็อคโกแลตทุกกระบวนการตั้งแต่การนำเม็ดช็อกโกแลตคุณภาพ วัตถุดิบชั้นดีที่สุดซึ่งทางร้านนำเข้าจากเบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์มาหลอมละลาย รังสรรค์รสชาติ ขึ้นรูปและตกแต่งอย่างพิถีพิถัน น่ารักเหมาะสมที่สุดกับการเป็นอีกหนึ่งของขวัญของฝากในเทศกาลแห่งความรักอีกไม่กี่วันข้างหน้า หรือท่านใดกำลังลดนํ้าตาล ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทางร้านเพิ่งเปิดจำหน่ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมาในกลุ่มแคร์สกิน บำรุงสุขภาพผิวให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส โดย Coco Butter จากเม็ดโกโก้ชั้นเยี่ยมที่มีให้เลือกทดลองใช้และเลือกซื้อครบครัน
ความสำเร็จอย่างงดงามตั้งแต่เดือนแรกของการเปิดร้าน Chocolate Factory อย่างเป็นทางการเมื่อ 3 ปีก่อน วันนี้ความฝันการทำให้ที่นี่เป็นแลนด์มาร์กของเขาใหญ่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามพร้อมต่อยอดความสุขและรสชาติอร่อยไปอีก2 เมืองท่องเที่ยวหลักคือพัทยาและหัวหิน ว่าแล้ววันหยุดยาวนี้ใครไม่มีแพลนไปไหน ลองแวะไปที่Chocolate Factory แล้วคุณจะรู้ว่า “ความรัก” มีจริง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,235 วันที่ 12 - 15 กุมภาพันธ์ 2560