มาลี กิตติพงศ์ไพศาล แม่ทัพใหม่อินิชิเอทีฟพร้อมสร้างพลวัต
เมื่อปลายปีที่แล้ว ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการเสริมกำลังจากแม่ทัพคนใหม่ "มาลี กิตติพงศ์ไพศาล" เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ด้วยประสบการณ์เกือบ 30 ปี ในธุรกิจเอเยนซี จากตำแหน่งล่าสุด คือ ผู้จัดการทั่วไป มายด์แชร์ ประเทศไทย แม่ทัพคนนี้พร้อมที่จะเข้ามาทำหน้าที่ผู้ขับเคลื่อน หรือเป็นผู้สร้างพลวัตให้กับอินิชิเอทีฟ
"ตอนที่ทำมายด์แชร์ งานหลักๆ จะเป็นงานดูแลลูกค้า และงานบริหารจัดการภายใน ดูและพัฒนาบุคลากร และทำ Talent Development ทำอย่างไรให้พนักงานเติบโตไปในสายงานที่เขาสนใจ รวมไปถึงทำอย่างไรให้องค์กรขับเคลื่อนไปด้วยความบาลานซ์ทางธุรกิจ พนักงานมีความสุข เป็นองค์กรที่น่าอยู่" นั่นคืองานเดิมที่รับผิดชอบ "จากจุดนั้น ย้ายมาอยู่อินิชิเอทีฟ ในตำแหน่งผู้นำองค์กร เราต้องดูทั้งองค์กร ทำหน้าที่เป็นลีดเดอร์ เราจะนำพาองค์กรไปในทิศทางไหน"
"มาลี" บอกว่า เธอเข้ามาในช่วงที่ อินิชิเอทีฟกำลังลอนช์แบรนด์ใหม่ ทำให้เธอได้เห็นภาพรวมขององค์กร พร้อมๆ กับได้รับรู้ทิศทางและเป้าหมายที่บริษัทแม่ ต้องการให้อินิชิเอทีฟเดินหน้าต่อไป พร้อมวัฒนธรรมองค์กรที่ถูกกำหนดขึ้น คือ FBDS โดย F-Fearless คือ ความไม่กลัว ทำอะไรใหม่ต้องไม่กลัว B - Brilliant ในโลกของการแข่งขันที่สูง คุณภาพของงานและบริการ ต้องเป็น Brilliant D - Dynamic คือการเคลื่อนไหว ในแวดวงการสื่อสาร ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ต้องไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง และต้องมีการพัฒนา S - Seamless การสื่อสาร มีหลายช่องทาง ลูกค้าใช้ทั้งมีเดีย และการครีเอทีฟ งานที่ส่งออกให้ลูกค้าในแต่ละช่องทางต้องสอดคล้องกัน เนียน กลมกลืนและชัดเจน
ซีอีโอใหม่ ให้ความสำคัญกับ 2 ส่วนหลัก คือ การเติบโตขององค์กร ซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนอยู่แล้วว่า แต่ละปีจะต้องมีการเติบโตเท่าไร เติบโตอย่างไร เพื่อให้อินิชิเอทีฟเติบโตทั้งในแนวลึก และแนวกว้าง และอีกส่วนหนึ่ง คือ คน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้องค์กรเติบโต คนทำงานต้องมีความก้าวหน้า มีความสุข ขณะเดียวกัน เขาต้องมีการพัฒนาไปในวัฒนธรรมหรือทิศทางที่องค์กรวางไว้ โดยใช้ FBDS นำทาง
"เอเยนซี สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของทีม ทุกคนต้องมีวัฒนธรรมเดียวกัน เพื่อให้การทำงานเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน"
"มาลี" มองเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งขององค์กรแห่งนี้ แต่เธอบอกว่า เธอชอบที่จะเสริมจุดแข็ง เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและเร็วกว่า ส่วนจุดอ่อน ก็ต้องค่อยๆ แก้ไขกันไป เช่น เรื่องของการสื่อสาร ที่ผ่านมา อินิชิเอทีฟอาจมีการสื่อสารออกไปข้างนอกน้อย ทำให้คนรู้จักไม่ค่อยมาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าหนักใจ เท่ากับภาพรวมของตลาด ซึ่งเศรษฐกิจโดยรวมนิ่งมาค่อนข้างนานทั้งในและต่างประเทศ ภารกิจหนัก คือ การผลักดันให้องค์กรเติบโต จึงเป็นเรื่องใหญ่ ในฐานะผู้บริหาร เธอบอกว่า ต้องทำทุกอย่างให้เร็ว ชัด รวบรัด และกระชับพื้นที่ โดยงานที่ออกมาต้องตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด
การทำงานของซีอีโอคนนี้ ยึดหลักจากการใช้ประสบการณ์และความเป็นตัวของตัวเองเข้ามาผสมผสาน โดยมีหลัก PILCA เป็นตัวยึดขอเตือนการทำงานของตัวเอง คือ P - Planing ด้วยประสบการณ์การเป็นแพลนเนอร์ วางแผนสื่อ เมื่อต้องเข้ามาทำหน้าที่ผู้บริหาร ก็ต้องปรับตัวและมีแผนงานที่ดี I - Initiative ต้องมองหาสิ่งใหม่ๆ เสมอ L - Lead เรามีหน้าที่เป็นผู้นำ เมื่อมีอะไรใหม่ๆ ก็ต้องลุกขึ้นมานำ ถ้าไม่เริ่มงานก็ไม่เกิด C - Coach ต้องทำหน้าที่บอก แนะนำ และสะกิด ให้ทีมงานทำ แต่ไม่ใช่การสั่ง และ A - Action อะไรบางอย่างที่เราต้องลงมือทำ เราก็ต้องทำ
สิ่งที่ท้าทายที่สุดของซีอีโอท่านนี้ คือ การทำความรู้จักกับองค์กรใหม่ รู้จุดแข็งจุดอ่อน และต้องทำความเข้าใจกับทั้งตัวองค์กร ทีมงาน ลูกค้า และเจ้านาย การทำงานในหน้าที่ผู้นำ ต้องรู้จักบริหารเวลาให้ดี เพราะฉะนั้น ก่อนลงมือทำอะไรต้องตั้งสติให้ดี แล้วเดินหน้า
ขณะนี้ ภารกิจในหน้าที่ผู้นำ ของซีอีโอ "มาลี กิตติพงศ์ไพศาล" กำลังเดินหน้า ไปตามแพลนที่เธอได้วางไว้แล้วอย่างชัดเจนทีละสเต็ป ตามสไตล์นักวางแผนเก่า เพื่อให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปสู่จุดหมายใหญ่ของไอพีจี กรุ๊ป นั่นเอง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560