กระทรวงพัฒนาสังคมฯ-สภากาชาดไทย ดูแลสุขภาพผู้สูงวัย

16 มิ.ย. 2560 | 02:59 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2560 | 10:40 น.
พม.เตรียมจับมือสภากาชาดไทยพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์การดูแลผู้สูงวัยแบบบูรณาการของสภากาชาดไทย เตรียมใช้เป็นต้นแบบดูแลผู้สูงวัย

Adun-2 นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวง พม. เยี่ยมชมการดำเนินงานของ “ศูนย์การดูแลผู้สูงวัยแบบบูรณาการของสภากาชาดไทย” เพื่อศึกษานวัตกรรมและองค์ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับผู้สูงอายุ เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในอนาคต และกำหนดรูปแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ระหว่าง กระทรวง พม. กับ สภากาชาดไทย ณ อาคาร ส.ธ. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ทั้งนี้ “ศูนย์การดูแลผู้สูงวัยแบบบูรณาการของสภากาชาดไทย” ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี เตรียมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาวะแทรกซ้อน และการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ส่งเสริมการเรียนรู้ ฝึกอบรมการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุและชุมชนมีความรู้ ความสามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งวิจัยและพัฒนาต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุของประเทศ เพื่อให้เป็นแหล่งของการวิจัยและสร้างความรู้ความเข้าใจการดูแลผู้อายุ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างเหมาะสม นำไปสู่สังคมที่ครอบครัวและชุมชนสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างยั่งยืน

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกิจกรรมภายในศูนย์ดังกล่าว ประกอบด้วย การบริการทางการแพทย์และรักษาพยาบาล (Medical Service) การพัฒนาต้นแบบการดูแลผู้สูงวัยระดับประเทศ พร้อมทั้งมี บริการเสริม จัดตั้งศูนย์รวมสิ่งของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ผู้สูงอายุ ศูนย์อาหารเพื่อสุขภาพและอาหารเฉพาะโรค และมีศูนย์ฝึกอบรมการดูแลผู้สูงวัย (Training Center) ซึ่งได้แก่ คลินิกผู้สูงวัย ศูนย์พาร์กินสัน ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูผู้สูงวัย ศูนย์การเดินและเคลื่อนไหว ศูนย์ฝึกสมอง ศูนย์ฟื้นฟูสมอง ศูนย์สุขภาพชาย ศูนย์นวัตกรรมด้านประสาทศาสตร์วิทยาศาสตร์ ศูนย์การแพทย์วิถีตะวันออก ศูนย์ฝึกทักษะการพูด การได้ยิน การกลืน การทรงตัวและการมองเห็น

“ จากการเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์แห่งนี้ นับว่าเป็นศูนย์ที่มีการวางระบบอย่างครบวงจรที่สุด โดยมีกระบวนการตั้งแต่การป้องกันและรักษาโรค ซึ่งมีโปรแกรมให้สมาชิกผู้อายุ ได้เรียนรู้ และฝึกทั้งในส่วนของระบบสมอง ระบบประสาทกล้ามเนื้อ สายตา รวมทั้งมีนวัตกรรมองค์ความรู้ต่างๆสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวง พม. จะนำไปปรับใช้เป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนงานด้านการดูแลผู้สูงอายุของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ทั้ง 12 แห่ง และศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ 878 แห่ง ทั่วประเทศ และนำไปสู่การบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. กับสภากาชาดไทยในอนาคต เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต่อไป”