“ชุติมา”ดันเชื่อมโยงตลาดข้าว พาผู้ซื้อพบผู้ผลิต

17 ส.ค. 2560 | 07:12 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ส.ค. 2560 | 14:12 น.
“ชุติมา” ดันเชื่อมโยงตลาดข้าว พาผู้ซื้อพบผู้ผลิต เกษตรกรเชื่อมั่นนาแปลงใหญ่ สมัครเข้าร่วมโครงการคับคั่ง

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมการข้าวว่า ปี 2560 นาแปลงใหญ่ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น หลังปรับหลักเกณฑ์ใหม่ให้เกษตรกรจำนวน 30 รายขึ้นไป มีเนื้อที่รวมกันมากกว่า 300 ไร่ เข้าร่วมโครงการได้ มีกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 748 กลุ่ม จำนวนเกษตรกร 55,050 รายพื้นที่ 750,448 ไร่ ล่าสุดหลังเปิดรับสมัครสมาชิกเพื่อเข้าร่วมโครงการในปี2561 เกษตรกรให้ความสนใจเป็นอย่างดี โดยมีกลุ่มเกษตรกร 384 กลุ่มสมัครเข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่ใน 34 จังหวัด รวมพื้นที่ 3 แสนกว่าไร่

[caption id="attachment_195932" align="aligncenter" width="503"] นางสาวชุติมา บุณยประภัศร นางสาวชุติมา บุณยประภัศร[/caption]

ในปี 2560 กรมการข้าวได้เข้าไปช่วยเรื่องการลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยแจกเมล็ดพันธุ์ดีให้สมาชิกนาแปลงใหญ่แล้ว2,454 ตัน เกษตรกรได้นำเมล็ดพันธุ์จำนวน 1,258 ตันไปเพาะปลูกแล้วสำหรับเมล็ดพันธุ์อีกส่วนหนึ่ง (1,196 ตัน) เกษตรกรนำไปปลูกเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อไว้ใช้ในปีหน้า รวมทั้งได้เผยแพร่องค์ความรู้และจัดทำแปลงสาธิตการปลูกแบบหยอดแทนการปลูกแบบหว่านซึ่งสามารถลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ได้ จากเดิม 20 – 30 กก./ไร่ เหลือ 5 – 10 กก./ไร่ และจัดสรรเครื่องหยอดข้าวให้กลุ่มเกษตรกรยืมตามความเหมาะสมของพื้นที่ นอกจากนั้นยังได้บูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าช่วยเหลือและแนะนำเกษตรกรเรื่องการลดต้นทุน/เพิ่มผลผลิต เช่น กรมพัฒนาที่ดินส่งเสริมการบำรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสดและเพิ่มผลผลิตโดยใช้ฮอร์โมนชีวภาพ กรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับกรมวิชาการเกษตรส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์ทดแทนสารเคมี เป็นต้น ในด้านการพัฒนาคุณภาพผลผลิต กรมการข้าวได้ตรวจรับรองแปลงตามมาตรฐาน GAP ในจังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี สกลนคร ลำปาง และกำแพงเพชร แล้ว ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะทยอยตรวจตามแผนที่ได้กำหนดไว้ต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ บูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทยเสนอ นบข. ให้เห็นชอบโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าวนาแปลงใหญ่ GAP เพื่อรองรับผลผลิตข้าวคุณภาพดีให้ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ผ่านกระบวนการค้าปลีกและค้าส่งในประเทศโดยจับคู่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์และข้าว GAP กับผู้ประกอบการและผู้ค้าปลีกค้าส่งอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดกลไกการค้าข้าวคุณธรรมตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกัน มีความเกื้อกูลต่อกันอยู่บนพื้นฐานตลาดนำการผลิตโดยเชื่อมโยงตลาดข้าวอย่างบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ปี 2560 มีพื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ 308,100 ไร่ และพื้นที่ปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ GAP 191,450 ไร่โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะต้องซื้อข้าวตามคุณภาพในราคาสูงกว่าตลาด 300 - 500 บาท โดยจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และช่วยแนะนำช่องทางตลาดให้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ กระทรวงพาณิชย์จะจัดสรรโควตาร้อยละ 10 ของโควตาการส่งออกข้าวไป EU จำนวน 2,000 ตัน/ปี และสนับสนุนค่าตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อการส่งออกตามที่ประเทศผู้ซื้อกำหนด กระทรวงเกษตรฯ จะดูแลให้การดำเนินงานภายใต้โครงการเชื่อมโยงเป็นไปด้วยความโปร่งใส มุ่งเน้นให้ผลประโยชน์ตกสู่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตอย่างแท้จริง