ไปรษณีย์ไทย แจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลลวงของมิจฉาชีพ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ โดยการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกให้โอนเงิน เพื่อขอรับพัสดุคืน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงแจ้งว่าประชาชนมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพต้องถูกอายัดเงินในบัญชีทั้งหมดนั้น
[caption id="attachment_207670" align="aligncenter" width="336"]
นางสมร เทิดธรรมพิบูล[/caption]
-13 ก.ย.60-นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์ติดต่อกับประชาชน โดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ไทย หลอกลวงประชาชนว่ามีพัสดุตกค้าง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ โดยเรียกให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อนำพัสดุออกจากที่ทำการไปรษณีย์ รวมไปถึงมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดด้วยนั้น กรณีดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ และร้องเรียนผ่านทาง THP Contact Center 1545 เป็นจำนวนกว่า 2,109 ครั้ง หรือ 13 เรื่องต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้บริการแจ้งเหตุฯ เข้ามาทางสื่อออนไลน์ อาทิ เฟสบุ๊กแฟนเพจและทวิตเตอร์ของไปรษณีย์ไทย และข้อความส่งต่อการหลอกลวงของแก๊งมิจฉาชีพทางแอปพลิเคชัน Line อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับมาตรการการรับสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์นั้น หากพบว่าผู้รับปลายทางไม่อยู่บ้าน หรือสิ่งของที่ฝากส่งไม่สามารถนำจ่ายได้ เจ้าหน้าที่นำจ่ายจะออก “ใบแจ้งให้มารับสิ่งของ” ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งรองรับสำหรับผู้ใช้บริการที่ฝากส่งสิ่งของในไปรษณียภัณฑ์แบบมีหลักฐานเท่านั้น เช่น บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษในประเทศ (EMS) บริการส่งด่วนทั่วโลก (EMS World) บริการไปรษณีย์ลงทะเบียน เป็นต้น โดยเอกสารดังกล่าวจะระบุรายละเอียดการขอรับไปรษณียภัณฑ์ ดังนี้ สาเหตุที่ไม่สามารถนำจ่ายได้ หมายเลขสิ่งของจำนวน 13 หลัก ประเภทของไปรษณียภัณฑ์ วัน-เวลาที่เจ้าหน้าที่ไปนำจ่าย และวัน-เวลาที่ประชาชนสามารถไปติดต่อขอรับได้ ณ ที่ทำการฯ อย่างชัดเจน โดยขอยืนยันว่า ไปรษณีย์ไทย ไม่มีนโยบายการเรียกเก็บเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อนำพัสดุออกจากที่ทำการไปรษณีย์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ