“งามดีช้อปปิ้ง” เดินหน้าเปิดแผนธุรกิจน้ำหอมปี 2561 เล็งส่งออก และเปิดแฟรนไซส์ ขยายสาขาหน้าร้านเพิ่มอีก 5 แห่ง เผยสถานะนำเข้าหัวน้ำหอมผสมขายเจาะตลาดกลาง โชว์กลิ่นยอดฮิตขายดีในกลุ่มผู้บริโภคอายุตั้งแต่ 18-44 ปี
นายวาทิต ประสมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท งามดีช้อปปิ้ง จำกัด เจ้าของน้ำหอมแบรนด์กัลยา “KANLAYA” ผู้นำเข้าหัวน้ำหอมจากฝรั่งเศส สวิต เซอร์แลนด์ อิตาลี สเปน แล้วนำมาผสมในห้องปฏิบัติการผลิตเครื่องสำอาง โดยใช้หัวน้ำหอมมาผสม เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแผนการดำเนินธุรกิจปี 2561 ว่าจะเป็นปีที่เดินธุรกิจในทางรุกมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเดินหน้า 3 แผน นับตั้งแต่ 1. จะขยายหน้าร้านจำหน่ายน้ำหอมจาก 4 ร้านที่มีอยู่แล้วในพื้นที่กทม. นครสวรรค์ และสุรินทร์ เพิ่มเป็น 9 ร้าน ในย่านมาบุญครอง เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น จากที่ปัจจุบันนอกจากขายที่หน้าร้านของตัวเองแล้ว ยังขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ 40 ราย และสัดส่วน 5-10% ขายผ่านออนไลน์ www.kanlayaperfume.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/kanlayaperfume
2. มีแผนขยายตลาดส่งออกไปยังตลาด CLMV โดยเฉพาะ ที่สปป.ลาว กัมพูชา นอกจากนั้นก็เจาะตลาดปากีสถาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลเอกสารส่งออก โดยสินค้าที่ผลิตจะใช้แบรนด์ของตัวเองโดยยังไม่มีการออกไปรับจ้างผลิต 3. เปิดตลาดแฟรนไซส์ในช่วงปลายปีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งยังอยู่ในช่วงวางแผน หลังจากที่บริษัท ได้รับมาตรฐานแฟรนไชส์ ประจำปี 2560 จากกระทรวงพาณิชย์ และยังได้เข้าร่วมโครงการแฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนให้เข้าโครงการ แฟรนไชส์ บีทูบี (Franchise B2B) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการธุรกิจให้สามารถขยายสาขาได้อย่างมั่นคง
ปัจจุบันมีน้ำหอมทั้งหมด 39 กลิ่น เป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ 5 กลิ่น ได้แก่ “เคสวีท” กลิ่นหอมหวานชวนหลงใหล กลิ่น “เคเฟรช” หอมสดชื่น (ขายดีอันดับ 1) กลิ่น “เคคิวท์” สำหรับวัยรุ่น กลิ่น “เคไบรท์” หอมหรูหราไฮโซ และกลิ่น “ไอคูล บายกัลยา” น้ำหอมสำหรับสุภาพบุรุษ และเป็นกลิ่นเทียบเคียงเคาน์เตอร์แบรนด์อีก 34 กลิ่น
“เราผลิตและจำหน่ายเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดกลาง เนื่องจากสินค้าได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) บรรจุใส่ขวดตั้งแต่ขนาดพกพา 10 มิลลิลิตรไปถึงขนาดปกติที่ 30 มิลลิลิตร มีราคาขายตั้งแต่ 100 บาทต่อขวดไปถึง 490 บาทต่อขวด”
นายวาทิตกล่าวว่าปัจจุบันตลาดน้ำหอมมีหลากหลายและแข่งขันกันสูงเนื่องจากมีน้ำหอมปลอมแพร่ระบาดตามท้องตลาดจำนวนมาก และเป็นน้ำหอมที่ไม่ได้ใช้หัวน้ำหอมที่มีคุณภาพ ถ้าเป็นตลาดเดียวกันนำหัวน้ำหอมมาผสมก็จะมีคู่แข่งในประเทศ 2-3 ราย สำหรับน้ำหอม “KANLAYA” เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ดูจากกระแสตอบรับจากผู้บริโภคและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก 4.6 ล้านบาทต่อปีเมื่อปี 2559 เพิ่มเป็น 5 ล้านบาท ในปีที่แล้ว และจะเพิ่มอีก 15% ในปี 2561
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,334 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2561