MI ผงาดประกาศติด TOP 3 เอเจนซี่กวาดดูแลงบโฆษณาทั้งตลาดกว่า 6,000 ล้านบาท

14 มี.ค. 2561 | 14:50 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มี.ค. 2561 | 21:50 น.
MI ผงาดประกาศติด TOP 3 เอเจนซี่วางแผนและบริหารงบสื่อโฆษณาในไทย กวาดดูแลงบโฆษณาทั้งตลาดกว่า 6,000 ล้านบาท

หลังจากที่หลากหลายกลุ่มก้อนเอเจนซี่ในประเทศไทยต้องควบรวมตัวกัน เพื่อความอยู่รอด บางเอเจนซี่เล็กต้องปิดกิจการ ตามงบโฆษณาที่ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ และปัจจัยหลากหลายอย่างในประเทศไทย MI หรือ Media Intelligence กับโตสวนกระแสด้วยยอดบิลลิ่งโฆษณาที่โตขึ้นซึ่งในปี 61 นี้ น่าจะกวาดยอดรวมวางแผนและบริหารงบโฆษณาสื่อกว่า 6,000 ล้านบาท จากการที่ตลอดสิ้นปี 60 ที่ผ่านมาก็ได้มีการปิดดิวพิชชิ่งงบโฆษณาจากหลากหลายบริษัท อาทิ กลุ่มรถยนต์และจักรยานยนต์ , กลุ่มเครื่องดื่ม , กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

S28_0277 นายภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ สายงานการวางแผนและกลยุทธ์สื่อโฆษณาบริษัทมีเดียอินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ MI เปิดเผยว่า MI เราเป็นเอเจนซี่ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น โดย 2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีทองของเรา สวนกระแสกับงบโฆษณาที่ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งจากปัจจัยหลากหลายอย่างทั้งในและนอกประเทศ เพราะโต 2 ดิจิตติดต่อกัน เราให้ความสำคัญอย่างมากกับ Consumer Insight โดยการนำ Consumer Insight จากหลากหลายแหล่งมาวิเคราะห์ และออกแบบแผนช่องทางการสื่อสารโฆษณารวมถึงคอนเทนท์ที่เหมาะในการสื่อสารนั้นๆ

เพราะปัจจุบัน Mass Audience ไม่มีอีกแล้ว Mass Media ก็ไม่มีอีกแล้วเช่นกัน การวางแผนการสื่อสารในปัจจุบันจึงต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน (Segmented Audiences)
โดยต้องกำหนดคอนเทนท์ และช่องทาง (Media & Platform) ที่เหมาะสมกับกลุ่มนั้นๆ
เพื่อประสิทธิภาพการสื่อสารที่ดีที่สุดคือพูดง่ายๆก็คือ ถูกคน-ถูกใจ-ถูกที่-ถูกเวลา ในขณะที่ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินคุ้มค่าที่สุด

อีกเรื่องที่ MI ให้ความสำคัญอย่างมากคือ Creativity บน Media และ Content โดยทีมงานจะถูกฝึกและกระตุ้นให้คิดอย่างสร้างสรรค์ เรายังมีแผนกที่ทำเรื่อง Branded Content (Adaptive Content) โดยเฉพาะ โดยการทำงานร่วมกับ Brand Agency และลูกค้า
Screen Shot 2561-03-13 at 1.47.13 PM

ภายใต้กรอบ DNA ของ Brand เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภค ณ ปัจจุบันมันซับซ้อนขึ้นตามเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนพัฒนาอย่างไม่หยุด การครีเอทคอนเทนต์ก็ต้องคำนึงถึง Segmented Audience ที่ชัดเจนและเข้าใจถึง Consumer journey ของกลุ่มนั้นๆ ให้เป็นอย่างดี ตอกย้ำ Cost Efficiency และบทบาทของ MI ในฐานะเป็น Partner ของแบรนด์ ทำให้รู้สึกว่า MI เป็นส่วนหนึ่งของ In house Marketing Communication Department ไม่ได้ทำหน้าที่แค่วางแผน และซื้อสื่อ แต่นำเสนอบริการครบทั้ง Total Communication Solution โดยไม่ได้มุ่งเน้นให้แบรนด์พยายามใช้เม็ดเงินโฆษณา และแนะนำองค์รวมของ งบประมาณที่เหมาะสมกับการแข่งขัน และเป้าหมายทางการตลาดและการสื่อสารของแบรนด์

นอกจากนั้น ทางคุณภวัตหวังว่า ภาพรวมปี 2561 นี้ ทาง MI มองตลาดน่าจะคึกคักขึ้น
อาจดันยอด Media Spending โตได้เกือบ 10% โดยอุตสาหกรรมหลักๆที่น่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนคือ หมวดรถยนต์ และ มือถือ ที่จะมีนวัตกรรมหรือ New model เข้ามาอย่างต่อเนื่อง, หมวดเครื่องดื่ม, Direct Marketing (Home shopping), หมวดสื่อสาร, หมวด Internet Banking เป็นต้น