กลุ่มกองทุนยุโรป ยึดหัวหาด 140 ไร่ ต.เชิงทะเล ภูเก็ต ปักธงสร้างแม็กเนตใหม่ท่องเที่ยว กางแผนลงทุนเฟสแรก ร่วม 1.5 พันล้านบาทผุดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ระดับเวิลด์คลาส เจาะกลุ่มตลาดบน พร้อมเปิดต้นปีหน้า
จากการขยายตัวของการท่องเที่ยวภูเก็ต ทำให้ล่าสุดกลุ่ม International Fund จากยุโรป ได้เข้ามาลงทุนสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ สำหรับเจาะกลุ่มตลาดบน บนพื้นที่บริเวณ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ภายใต้โครงการ “บลูทรี ภูเก็ต” (Blue Tree Phuket) แหล่งท่องเที่ยวใหม่ระดับเวิลด์คลาส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” แห่งแรกของภูเก็ต ที่ดำเนินการโดยบริษัท ไพเรท เกิร์ล จํากัด ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
นายไมเคิล ไอลิง ผู้จัดการทั่วไป บลูทรี ภูเก็ต กล่าวว่า โครงการ “บลูทรี ภูเก็ต” มีพื้นที่ทั้งหมด 140 ไร่ ซึ่งการพัฒนาในระยะแรกจะลงทุนบนพื้นที่ 70 ไร่ ในการสร้าง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” แห่งแรกของภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 146 ไร่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่บริการด้านการพักผ่อนและศูนย์รวมกีฬาทางนํ้าอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บีชคลับ 4 ชั้น, ฟิตเนสโซน, คิดส์คลับ, ร้านอาหาร 17 ร้าน ทั้งภัตตาคารและอาหารราคาประหยัด และพื้นที่ศูนย์การค้า
รวมไปถึง “บลูทรี ลากูน” มหาสมุทรสไตล์ลากูนขนาดใหญ่กว่า 1.7 หมื่นตารางเมตร ที่ดีไซน์และก่อสร้างโดย คริสตัล ลากูนส์ บริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมลากูนยักษ์ใหญ่ ซึ่งจะเป็นพื้นที่สวนนํ้าครอบคลุมกว่า 10 ไร่ โดยบลูทรี ลากูน ยังใช้เทคโนโลยีอันลํ้าสมัยเพื่อรักษาความใสของนํ้า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้สารเคมีน้อยกว่า 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่าระบบสระว่ายนํ้าธรรมดาถึง 50 เท่า มีกิจกรรมเด่นๆ คือการกระโดดหน้าผาจำลอง และสไลเดอร์ Slip N Fly ล้อมรอบด้วยชายหาดเทียม และมีสนามเด็กเล่นนํ้าที่ดีที่สุดเหมาะสำหรับเด็กและครอบครัว นอกจากนั้น ยังมีสลิปแอนด์ฟลาย (Slip N Fly) สไลเดอร์ยักษ์สแปลชโซน (Splash Zone) และกิจกรรมไต่หน้าผา
โครงการในเฟสแรก กำหนดจะเปิดตัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งการสร้างลากูนขนาดใหญ่นี้ ดำเนินการ ไปแล้วกว่า 70% ส่วนร้านค้ามีทั้งสิ้น 91 ร้าน กว่า 35% ของพื้นที่มีผู้จองเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งมีร้านอาหารทั้งสิ้น 17 ร้าน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป้าหมายของโครงการนี้คือเราต้องการเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่รวบรวมความบันเทิงทั้งหมดเพื่อทุกคนในครอบครัว สิ่งที่โปรโมตจะเป็นเรื่องของกิจกรรมและไลฟ์สไตล์เรื่อง
สุขภาพ เจาะกลุ่มคนไทย, Expats ที่อาศัยในภูเก็ต, ลูกค้าที่มาพักโรงแรมต่างๆ ในภูเก็ต และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวภูเก็ต ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 9 ล้านคนในปี 2562
“โครงการนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และตั้งใจจะเปิดตัวให้เป็นจุดหมายในการท่องเที่ยว แบบครอบครัวระดับโลกสำหรับทุกคนที่มาเที่ยวภูเก็ต และยังเป็นการสร้างเพื่อตอบรับความต้องการเรื่องการท่องเที่ยวบันเทิงแบบครอบครัวสำหรับตลาดบน ที่ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย, จีน, รัสเซีย และประเทศใน ทวีปยุโรปที่นอกเหนือจากชายหาดและทะเลของภูเก็ต ซึ่งการท่องเที่ยวในรูปแบบนี้เป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาด โดยเราคิดค่าเข้าเริ่มต้นที่ 300 บาทสำหรับการใช้บริการในบางส่วนของโครงการ แต่ถ้าจะใช้บริการในทุกโซน ค่าเข้าจะอยู่ที่ 1 พันบาท”
นายไอลิง ยังกล่าวต่อว่า นอกจากการลงทุนในเฟสแรกแล้ว ในโครงการมีพื้นที่อีก 70 ไร่สำหรับการพัฒนาต่อในเฟสต่อไปในอนาคต แต่ทั้งนี้ต้องดูการตอบรับจากเฟสแรกก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจพัฒนาและรูปแบบของโครงการอื่นๆ ที่จะสร้างต่อไปในอนาคต
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3394 ระหว่างวันที่ 23 - 25 สิงหาคม 2561