“ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก” ยกเครื่องศูนย์ครั้งใหญ่สู่ “ฮับ” แสดงศิลปะและแอนทีก เตรียมรีโนเวตเพิ่มโซนใหม่ “รูฟท็อป” พร้อมจับมือพาร์ตเนอร์บูมเศรษฐกิจริมเจ้าพระยาหลังไอคอนสยามเปิด ล่าสุดผนึก NPM จัดนิทรรศการมัลติมีเดียโชว์ภาพวาด วัตถุโบราณจากประเทศจีนอายุกว่า 300 ปีจำนวนกว่า 7 แสนชิ้นครั้งแรกในเซาธ์อีสต์เอเชีย
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอิตัลไทยฯผู้บริหารศูนย์การค้า “ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก” เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนรีแบรนดิ้งศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อกอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมปรับปรุงพื้นที่ชั้น 3 และบริเวณดาดฟ้า ซึ่งมีพื้นที่ว่างและเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ราว 2,000 ตร.ม. เพื่อให้เป็นรูฟท็อป โซนพื้นที่ใหม่สามารถชมวิวโค้งแม่นํ้าเจ้าพระยาที่สวยงามได้ โดยคาดว่าจะเริ่มออกแบบได้ในปีหน้า และเปิดให้บริการได้ในปี 2563 ซึ่งจะต้องประเมินงบลงทุนอีกครั้ง
[caption id="attachment_335141" align="aligncenter" width="335"]
ยุทธชัย จรณะจิตต์[/caption]
ทั้งนี้ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อกได้รีโนเวตพื้นที่ชั้น 2 ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะร่วมสมัยและหัตถกรรมพื้นบ้านตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยจุดแข็งของศูนย์ที่เป็นศูนย์รวมงานศิลปะและวัตถุโบราณ (แอนทีก) โดยร่วมกับแกลเลอรี่ผู้จัดงานอีเวนต์ สถานทูต และมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อนำเสนอนิทรรศการศิลปะและวัฒนธรรมจัดแสดงภาพถ่ายภาพวาดและประติมากรรมรวมถึงพื้นที่สำหรับฉายภาพยนตร์ ตลอดจนการจัดประชุมสัมมนาต่างๆ
“เป้าหมายของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก คือ การขยายกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาชมงานศิลปะ แอนทีค ตลอดจนใช้บริการในทุกส่วนให้มากขึ้น”
นางสาวลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้แบงค็อก กล่าวว่า ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เป็นที่รู้จักของผู้ที่รักงานศิลปะและชื่นชอบวัตถุโบราณเป็นอย่างดี โดยเป็นศูนย์การค้าที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้มากว่า 33 ปี และยังเป็นศูนย์กลางของการซื้อขายแลกเปลี่ยนสำหรับนักท่องเที่ยว นักสะสม และผู้ค้าขายจากตลาดเอเชีย โดยลูกค้า 50% เป็นชาวเอเชีย นำโดย ไต้หวัน ฮ่องกง จีน มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ 30% เป็นชาวไทย และอีก 20% เป็นชาวยุโรป
ด้านกลยุทธ์การทำตลาดนับจากนี้ ศูนย์จะเน้นการจัดแสดงคอนเสิร์ตทุกๆเดือน การจัดเอ็กซิบิชันทุกเดือน สลับหมุนเวียนไปมาทั้งจากผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ การจัดแสดงภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีการนำเสนอแล้วจาก 20 ประเทศ นอกจากนี้ยังมีการแสดงงานศิลปะทั้งจากไทย เอเชีย และปีหน้าจะเห็นงานศิลปะจากยุโรปด้วย ทั้งนี้ศูนย์ตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก
ล่าสุดศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้แบงค็อกร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งไทเป(NPM) ที่รวบรวมศิลปะวัตถุโบราณลํ้าค่าของจีนมีอายุกว่า 300 ปีกว่า 7 แสนชิ้น จัดแสดงนิทรรศการในรูปแบบมัลติมีเดีย สื่อผสมผสานดิจิตอลเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันนี้ -12 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ห้องศิลปะร่วมสมัย ชั้น 2 ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้แบงค็อก เป็นโปรเจ็กต์นำร่องก่อนขยายความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ระดับโลกต่างๆ
“ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ถือเป็นศูนย์การค้าที่ให้ทั้งความรู้ ความบันเทิงทางด้านงานศิลปะ และวัตถุโบราณ โดยวันนี้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 7,000-8,000 คนต่อวัน และหลังจากที่มีการทำกิจกรรมการตลาด การโฆษณา ประชาสัมพันธ์มากขึ้นคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 30% โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยเข้ามา และคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบงานศิลปะด้วย”
อย่างไรก็ดี การเปิดตัวของไอคอนสยาม ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าเชื่อว่าจะส่งผลให้ภาคธุรกิจริมแม่นํ้าเจ้าพระยาคึกคักขึ้นไม่ว่าจะเป็นโรงแรม 5 ดาว กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งล้วนเป็นพันธมิตรกัน รวมทั้งริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อกก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรสมาชิกกลุ่มธุรกิจริมแม่นํ้าเจ้าพระยาด้วย ซึ่งริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อกถือว่าอยู่ใจกลางของดิสทริกนี้ ทำให้มีความได้เปรียบเพราะเป็นที่รู้จัก และมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งในระยะยาวบริษัทมีแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรในย่านนี้ ในการจัดกิจกรรมร่วมกัน ภายใต้ธีมเดียวกัน ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาท่องเที่ยวที่นี่ได้
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,411 ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2561