"กลุ่มดุสิตธานี" จับมือ 'ศิลปากร' อนุรักษ์เอกลักษณ์ของ "โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ" ก้าวสู่โฉมใหม่
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากร ศึกษา วิจัย อนุรักษ์ และเก็บบันทึกเรื่องราวความโดดเด่นในทุกมิติของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ลงในสื่อผสมหลากหลาย ทั้งงานภาพจิตรกรรม หนังสั้น และบันทึกลงในมัลติมีเดียแอพพลิเคชัน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เผยถึงจุดเริ่มต้นอันนำมาสู่ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากร ว่า "ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย คุณแม่ของผมสร้างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เพราะเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในเวทีระดับโลก ซึ่งท่านคิดว่า การสนับสนุนที่ดีที่สุด คือ การสร้างโรงแรมที่โดดเด่นและดีที่สุดตามมาตรฐานสากล โดยยึดขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมไทยเป็นหลัก เพื่อให้กรุงเทพมหานครปรากฏอยู่บนแผนที่ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ได้สร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งในเรื่องของการบริการและการดูแล รวมถึงการเป็นอาคารอันเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีอัตลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว
ดังนั้น เมื่อจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องการที่จะเก็บรักษาส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่มีคุณค่าทางจิตใจและทางประวัติศาสตร์ไว้ให้ได้มากที่สุด สำหรับคนรุ่นหลังได้ศึกษา เพราะผมเชื่อว่า อดีต คือ แรงบันดาลใจสู่อนาคตที่ยั่งยืน
รองศาสตราจารย์สยุมพร กาษรสุวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า บทบาทของมหาวิทยาลัยศิลปากรในโครงการนี้ เน้นที่การนำความรู้ความชำนาญของเหล่าคณาจารย์จากภาควิชาต่าง ๆ ทั้งคณะโบราณคดี คณะสถาปัตยกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และความร่วมมือของคณะวิชาต่าง ๆ มาบูรณาการร่วมกันในการเก็บบันทึกข้อมูลในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเรื่องราวของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เหมือนเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นยอดสำหรับผู้ที่สนใจในการพัฒนาการทางด้านศิลปะวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของไทย และที่สำคัญ คือ เรารู้สึกยินดีมากที่ทางดุสิตธานีเห็นถึงคุณค่าของงานเหล่านี้และมีความประสงค์ที่จะอนุรักษ์ไว้ให้ได้มากที่สุด
ผู้ช่วยศาสตรจารย์ชวลิต ขาวเขียว คณบดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เผยว่า โครงการนี้ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนแรก คือ งานอนุรักษ์ ซึ่งครอบคลุมการอนุรักษ์งานเครื่องไม้สักทองแกะลวดลายบนฝ้าเพดาน และงานจิตรกรรมภาพวาดบนเสาและฝาผนังในห้องอาหารเบญจรงค์ รวมถึงเปลือกอาคารด้านนอก ซึ่งต้องใช้การบูรณาการของทุกองค์ความรู้ ทั้งด้านจิตรกรรม วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และโบราณคดีในการอนุรักษ์ผลงานอันทรงคุณค่านี้
ส่วนที่ 2 คือ การศึกษา วิจัย ประวัติศาสตร์ศิลปะ ประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรมและพืชพรรณ เพื่อถอดแบบองค์ประกอบสถาปัตยกรรมและทำโมเดลจำลองของโรงแรม
ส่วนที่ 3 คือ การจัดกิจกรรมเผยแพร่คุณค่าของดุสิตธานีผ่านฝีแปรงจากศิลปินแห่งชาติและศิลปินชั้นนำของไทย 20 ท่าน เพื่อจัดแสดงนิทรรศการให้ชมกันเป็นครั้งแรกในโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งกระบวนการทำงานวิจัยและอนุรักษ์ทุกขั้นตอน จะมีการรวบรวบข้อมูลและจัดทำเป็นหนังสือดิจิทัล เผยแพร่ความรู้ให้เป็นสาธารณต่อไป
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเก็บบันทึกเรื่องราวของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงเปลี่ยนผ่านให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และอนุรักษ์ความทรงจำที่เปี่ยมความหมายให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า เมื่อโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่เปิดให้บริการ หลังจากจะปิดรีโนเวทโรงแรมในวันที่ 5 ม.ค. 2562
จุดเด่นของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โฉมใหม่ จะเป็นการหลอมรวมระหว่างการเป็นโรงแรมที่มีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีประวัติศาสตร์และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังคงบุคลิกความเป็นไทยร่วมสมัยในแบบดุสิตธานี
"เราตั้งใจที่จะนำชิ้นงานศิลปะสำคัญ ๆ และองค์ประกอบดั้งเดิมบางส่วนของดุสิตธานี กรุงเทพฯ อาทิ งานไม้สักทองแกะบนฝ้าเพดาน เสาเพนท์ลายไทยและภาพจิตรกรรมที่ห้องอาหารเบญจรงค์ ต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งเปลือกอาคาร เป็นต้น ไปอยู่ในโรงแรมแห่งใหม่ด้วยเพื่อให้แขกใหม่ ๆ และลูกค้าประจำที่ผูกพันกับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ รู้สึกอบอุ่นคุ้นเคยเหมือนเดิมเมื่อย่างเข้ามาที่ดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่"