อินเด็กซ์ฯ คว้างาน "World Expo 2020 Dubai"

13 ม.ค. 2562 | 07:58 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2562 | 22:48 น.
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ ชูแนวคิด Mobility for the future ขับเคลื่อนสู่อนาคต โชว์ศักยภาพประเทศไทยผสานอัตลักษณ์ในมิติ Digital for Development บนเวที "เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020" ณ นครดูไบ ตั้งเป้าทั่วโลกเข้าชมกว่า 1.75 ล้านคน

พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การทำแบรนดิ้งจึงเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรจะละเลยไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา การทำแบรนด์ขององค์กรแต่ละแห่งมีการสื่อสาร หรือ ตอกยํ้าแตกต่างกัน และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างแบรนดิ้ง คือ "อีเวนต์" ซึ่งแต่ละปีมีอีเวนต์เกิดขึ้นมากมาย และผลงานอีเวนต์ของไทยก็ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคอาเซียน จนสามารถคว้างานอีเวนต์ระดับภูมิภาคได้มากมาย โดยล่าสุด "อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ" ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้บริหารอาคารแสดงประเทศไทย ภายในงาน "เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020" ที่ดูไบเป็นเจ้าภาพ ถือเป็นงานใหญ่ระดับโลกที่เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้โชว์อัตลักษณ์ความเป็นไทยและศักยภาพของผู้จัดงานที่เป็นฝีมือคนไทยด้วย

 

[caption id="attachment_373199" align="aligncenter" width="503"] เกรียงไกร กาญจนะโภคิน เกรียงไกร กาญจนะโภคิน[/caption]

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้อินเด็กซ์ได้รับงานใหญ่ในการบริหารอาคารแสดงประเทศไทย (Thai Pavilion) ภายในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ (World Expo 2020 Dubai) งานนิทรรศการนานาชาติระดับโลก ณ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ต.ค. 2563 - 10 เม.ย. 2564 โดยเตรียมเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งจะมีประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 180 ประเทศ ขณะเดียวกัน อินเด็กซ์เชื่อว่า การสร้างไทยแลนด์พาวิเลียนครั้งนี้จะเป็นการสร้างแบรนดิ้งของประเทศไทย


78828

โดยการจัดงานครั้งนี้ มีมูลค่ากว่า 889 ล้านบาท ขณะที่ ความแตกต่างของการทำพาวิเลียนครั้งนี้ คือ กลุ่มเป้าหมายจะเปลี่ยนจากคนท้องถิ่นเป็นนักท่องเที่ยว 70% ซึ่งต่างจากหลาย ๆ ปีที่อินเด็กซ์เคยจัด ที่เป็นคนท้องถิ่นเข้ามาดู แต่ครั้งนี้อินเด็กซ์ตั้งเป้าไว้ คือ ต้องทำพาวิเลียนให้ได้รับความนิยม รวมถึงศึกษาพฤติกรรมคนต่างชาติจะมีความคิดเห็นอย่างไร

"การทำให้พาวิเลียนประสบความสำเร็จ แบ่งออกเป็น 4 สัดส่วนหลัก ได้แก่ องค์ประกอบการจัดงาน 25% กิจกรรม 16% การประชาสัมพันธ์ 14% และสถาปัตยกรรม 9% นี่คือ ความท้าทายที่สนุก เพราะเรารู้ปัญหาก่อนแล้ว ซึ่งรับประกันว่า ไม่มีใครรู้และทำการบ้านเท่าอินเด็กซ์ เรามั่นใจว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมไทยแลนด์พาวิเลียนประมาณ 7% ของประมาณการผู้เข้าชมทั้งหมด หรือประมาณ 1.75 ล้านคน"


อินเด็กซ์

จากผลการสำรวจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า คนต่างชาติเห็นว่า คนไทยมีมิตรไมตรี มีความสุข ยินดีต้อนรับ และยิ่งตอกยํ้าด้วยการได้รับรางวัล Best Country For People จากนิตยสาร Conde Nest Traveller ในปี 2018 ทำให้อินเด็กซ์นำผลสำรวจดังกล่าวนี้มาจัดสร้างไทยแลนด์พาวิเลียนผ่าน THAI’S DNA มหัศจรรย์แห่งรอยยิ้ม (Miracle of smile)

ทั้งนี้ ในการจัดงาน ประเทศเจ้าภาพคาดการณ์ว่า ภายในงานจะสามารถดึงดูดผู้ชมได้ราว 25 ล้านคน งานนี้จะจัดบนพื้นที่กว่า 4 ตารางกิโลเมตร ริมชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครดูไบ สำหรับประเทศไทยจะจัดสร้างอาคารแสดงประเทศไทยในพื้นที่จัดแสดงด้านการขับเคลื่อน ภายใต้แนวคิด Mobility for the future การขับเคลื่อนสู่อนาคต โดยอาคารแสดงประเทศไทยจะเสนอแนวคิดของการพัฒนาด้านดิจิตอลของประเทศไทยในมิติ Digital for Development


78825

พร้อมทั้งผสมผสานกับการนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านการพัฒนาด้านดิจิตอลเทคโนโลยีที่โดดเด่น บนพื้นที่กว่า 3,600 ตารางเมตร หรือ 2.25 ไร่ โดยทางอินเด็กซ์ได้รับมอบหมายในฐานะผู้บริหารจัดการอาคารศาลาไทย ซึ่งรับผิดชอบตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนกลยุทธ์ ดำเนินการจัดนิทรรศการ บริหารจัดการ ควบคุมงานก่อสร้าง รวมถึงวางแผนด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,435 ระหว่างวันที่ 13-16 มกราคม 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว