จีเอ็มเอ็ม มิวสิก โชว์ผลงานเติบโตสูงกว่าตลาดโลก แย้มแผนยุทธศาสตร์ 5 ด้าน พร้อมเปิด Unit ใหม่ “ซน” Hub ของคนรุ่นใหม่ มั่นใจเดินหน้าธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงของโลกมีผลกระทบไปทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ต้องปรับตัวอย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจเพลงซึ่งว่ากันว่าหลังการเข้ามาของการสตรีมมิ่งและออนไลน์แพลตฟอร์ม ธุรกิจเพลงได้รับผลกระทบหนักเหมือนกันทั่วโลก แต่สำหรับจีเอ็มเอ็ม มิวสิก กลับสามารถปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าจะเป็นการยืนหยัดสู้กับ Disruption ได้อย่างมั่นคงที่สุด ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา จีเอ็มเอ็ม มิวสิก มีผลงานรายรับรวมเติบโตเฉลี่ยที่ 22% ซึ่งเติบโตกว่าตลาดเพลงโลกที่มีค่าการเติบโตที่ 8.1%
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลงานของจีเอ็มเอ็ม มิวสิก ในปี 2561 มีรายได้รวม 3,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมเป็นเงิน 3,061 ล้านบาท หรือเติบโต 22% เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล 37% ขณะที่ในด้านธุรกิจ Digital Platform เติบโตสูงกว่า 83% ตามมาด้วยธุรกิจโชว์บิซ เติบโตสูงกว่า 113% ธุรกิจลิขสิทธิ์ เติบโต 19% ธุรกิจบริหารศิลปินและงานจ้างเติบโตขึ้น 10% และธุรกิจโรงเรียนดนตรีเติบโตขึ้น 12% ขณะเดียวกันในด้านรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตที่ตัวเลข 2 หลัก
ปัจจุบันจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจงานจ้างและสปอนเซอร์ชิปมีสัดส่วนรายได้ที่ 40% ธุรกิจดิจิทัล 40% และธุรกิจโชว์บิซ 10% อีกทั้งในปี 2562 บริษัทได้วางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ดังนี้ 1. Hit Song การสร้างเพลงใหม่มากกว่า 500 เพลงของศิลปินให้กลายเป็นเพลงฮิตเพื่อสร้างรายได้ในช่องทาง Digital Platform 2. Original Content การสร้างคอนเทนต์ที่พิเศษและ Exclusive ครอบคลุมแนวเพลงทุกประเภททั้งป๊อป ร็อก ลูกทุ่ง อินดี้ เพื่อนำไปสร้างสรรค์และต่อยอดในธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มของพันธมิตรต่างๆ 3. Showbiz & Merchandising ขยายธุรกิจโชว์บิซ อาทิ มิวสิก เฟสติวัล และคอนเสิร์ตรูปแบบต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นในทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
4. Right Management การทำธุรกิจด้านลิขสิทธิ์ โดยจับมือร่วมกับ Platform Facebook ในเรื่องสิทธิ์การใช้เพลงบนแพลตฟอร์ม เพื่อสนับสนุนให้ User ใช้เพลงในการประกอบคอนเทนต์ของ User ได้เองอย่างถูกลิขสิทธิ์ และ 5. Online Content ขยายฐานลูกค้าและสามารถตอบโจทย์ Online Consumer รวมทั้งการเปิด Unit ใหม่ ซน Online Creator Hub ที่มีจุดยืนในตลาดชัดเจนว่าเป็น Hub ของคนรุ่นใหม่ ที่คิดและสร้างสรรค์ออนไลน์คอนเทนต์ของศิลปินครบทุก Segment ทั้งในและนอกค่าย
“บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าการเติบโตที่ยั่งยืนคือหัวใจที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจในตอนนี้ เราให้ความสำคัญในคุณค่าของศิลปิน ทีมงาน ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง พนักงานทุกคนที่จะอยู่ในวิชาชีพที่มีแรงบันดาลใจและมีความมั่นคงในธุรกิจ ทั้งนี้ เรายึดหลักของความร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน ฉะนั้น เราจึงพยายามจับมือกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ค่ายนอก Promotor Platform คู่ค้าทางธุรกิจ หรือ Brand สินค้าต่างๆ เพื่อที่จะมุ่งมั่นทำให้อุตสาหกรรมเพลงเติบโตได้อย่างแข็งแรง ต่อเนื่องและยั่งยืน”
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3455 ระหว่างวันที่ 24 - 27 มีนาคม 2562