กรมปศุสัตว์เปิดแผนจะมือป้องกลุ่มประเทศอาเซียน ผวา "โรคอหิวาต์แอฟริกาสุกร" รุกคืบระบาด เตรียมปล่อยขบวนหน่วยเฉพาะกิจ จัดชุดลงปฎิบัติการ พร้อมพาหนะพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อแนวชายแดนไทยและเพื่อนบ้าน
วันนี้ (27 มี.ค. 62) นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา "Seminar on African Swine Fever (ASF) Risk Preparedness" ระหว่างวันที่ 26-27 มี.ค. 2562 พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์, นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ปศุสัตว์เขต 2, 3, 4 และ 5 ผอ.สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ ผอ.กองสารวัตรและกักกัน ผู้แทนจากปศุสัตว์จังหวัด เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ผู้แทนจากกองความร่วมมือด้านการปศุสัตว์ระหว่างประเทศ ผู้แทนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ผู้แทนจากประเทศกลุ่มอาเซียน ประกอบด้วย อธิบดีจากประเทศกัมพูชา รองอธิบดีจาก สปป.ลาว และรองอธิบดีจากเวียดนาม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) เป็นโรคที่ไม่มีวัคซีน เกิดโรคเฉพาะในสุกร ไม่ติดต่อสู่คน ทำให้เกิดอัตราการตายสูงในสุกร ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างมากต่ออุตสาหกรรมผู้ผลิตและผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของโรค ASF มากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนและเวียดนาม ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงทางด้านอาหาร (Food Security) ระดับภูมิภาคด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือและสร้างเครือข่ายปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับโรค ASF ระดับภูมิภาค กรมปศุสัตว์ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้จัดงานสัมมนาขึ้น โดยจุดประสงค์เพื่อทบทวนสถานการณ์และความเสี่ยงของโรค ASF ในสุกรที่มีต่อประเทศในแถบภูมิภาค สร้างกลไกความร่วมมือเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันการเกิดโรค สร้างเครือข่ายระหว่างหน่วยงาน สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายตามชายแดน โดยมีองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ให้การสนับสนุนข้อมูลทางด้านวิชาการ นอกจากนี้ ในการสัมมนามีการนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบันของโรค ASF และความเสี่ยงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แผนในการเตรียมความพร้อมและการรับมือของโรค ASF ระดับชาติของประเทศต่าง ๆ การประเมินความเสี่ยงในการระบาดของโรค ASF และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศต่าง ๆ ด้านความร่วมมือ การสร้างความเข้มแข็งตามแนวชายแดนระหว่างประเทศ การสร้างเครือข่าย และการระบุจัดความสำคัญในการเตรียมความพร้อมและความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อให้กลไกความร่วมมือเกี่ยวกับโรค ASF ระดับภูมิภาคสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นอกจากนี้ เป็นประธานปล่อยขบวนคาราวานความร่วมมือเฝ้าระวังและป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยปฎิบัติการพิเศษกว่า 45 ราย พร้อมยานพาหนะ 15 คัน ร่วมกับผู้แทนจากประเทศกัมพูชา ลาว และเวียดนาม เพื่อพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อต้านโรค ASF ตามพื้นที่ชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมมือดำเนินการตามมาตราการป้องกันโรค ASF ของกรมปศุสัตว์ต่อไป โดยเริ่มปฎิบัติการตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. - พ.ค. 2562 นี้