“FN Outlet” ผนึก ช้อปปี้ เสริมแกร่งออนไลน์
“FN Outlet” ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกเอ๊าท์เลทในไทย ผนึก ช้อปปี้ เสริมแกร่งอีคอมเมิร์ซ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ ตอบโจทย์ไลฟสไตล์นักช้อปยุคใหม่ พร้อมเพิ่มการเข้าถึงสินค้าได้ 24 ชั่วโมงจากทุกที่ในประเทศ
นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เอฟเอ็นถือเป็นธุรกิจค้าปลีกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่มีจำนวนประชากรกว่า 70 ล้านคน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวอีกกว่า 35 ล้านคนต่อปี ดังนั้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ และตอบสนองการขยายตัวของตลาดออนไลน์ เราจึงได้จับมือกับ Shopee ซึ่งเป็นผู้นำด้านตลาดออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้ากว่าหลายล้านคน”
ทั้งนี้การจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้นำตลาดออนไลน์อย่างช้อปปี้ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้า และเปิดโอกาสให้ลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ ที่ไม่ได้มีโอกาสแวะซื้อสินค้าใน FN Outlet สามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพภายใต้แบรนด์ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากทุกที่ในประเทศไทย
“เราคาดว่า การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ร่วมกับช้อปปี้ ในครั้งนี้ จะช่วยให้ยอดขายสินค้าของเราเติบโตขึ้นอีกราว 5–10 % และเรามั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างดี”
สำหรับสินค้าที่ เอฟเอ็น เอ๊าท์เลท จะประเดิมจัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ของช้อปปี้ เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องนอน เครื่องใช้ ภายใต้แบรนด์ที่คัดสรรมาเพื่อนักช้อปออนไลน์โดยเฉพาะ อาทิ Cherish ที่มีสินค้าขายดีอย่าง Tempsoft Topper และ Tempsoft หมอนเจล เป็นสินค้าชูโรง รวมถึง Prim และ Cushy ที่จะโดดเด่นสำหรับสินค้าในหมวดผ้าปูที่นอนและเฟอร์นิเจอร์ เรียกว่า “มา FN จบครบที่เดียวเรื่องเครื่องนอน” ตามคอนเซบป์ เครื่องนอนครบที่เดียวครบคุ้ม โดยจะเริ่มแคมเปญเพื่อสร้างพันธมิตรอย่างยั่งยืนกับช้อปปี้อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้
อนึ่งสำหรับ เอฟเอ็น เอ๊าท์เลท นับเป็นผู้ริเริ่มโมเดลค้าปลีกในรูปแบบธุรกิจเอ๊าท์เลทเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว ภายใต้แนวคิด “คุณภาพส่งออก ราคาผู้ผลิต” โดยเริ่มจากสาขาแรกที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2543 จนในปัจจุบัน เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท ได้ขยายสาขารวม 12 แห่ง ทั่วประเทศไทย โดยยุทธศาสตร์การขยายสาขาจะเน้นที่เส้นทางถนนสายหลักไปจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงเลือกพื้นที่ที่มีประชากรและนักท่องเที่ยวหนาแน่น และมีกำลังซื้อสูง เช่น กาญจนบุรี พัทยา ปากช่อง หัวหิน ศรีราชา และ ระยอง