“ชโยดม”ยังเปิดเกมบุกต่อเนื่อง สั่งระดมทุนเพิ่ม 250 ล้าน รอบ 2 เมื่อรวมกับรอบแรกเป็น 450 ล้าน คาดปิดรับจอง 22 ก.ค.นี้ เล็งตั้งโรงงานแข่ง ปั้นกำลังการผลิต 3 แสนตัน/วัน จะทำให้ราคาผลปาล์มไม่น่าจะต่ำกว่า 4 บาท ลามชิ่งค่ายน้ำมันใต้ยอดขายลดโดนบี 100 ถล่ม เล็งปลุกทั้งประเทศไม่ต้องง้อตลาดส่งออก สานพลังงานทางเลือกพระราชดำริในหลวง ร.9 แก้วิกฤติ
นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันกำลังเปิดรับจองรอบ 2 หุ้น หุ้นละ 2000 บาท ปิดรับจองวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 เพื่อจะระดมทุนอีก 250 ล้านบาท จากรอบแรกระดมทุน 200 ล้านบาท เป็น 450 ล้านบาท เพื่อที่จะสร้างโรงงานที่มีกำลังการผลิตวันละ 3 แสนตันต่อวัน ซึ่งในเร็วๆนี้จะเชิญคณะกรรมการประชุมกำหนดนโยบาย เพราะเกษตรกรหลายคนอยากผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะการใช้บี 100 เป็นตัวช่วยทำให้อาชีพการปลูกปาล์มยั่งยืนได้จริง
“วันนี้ยอมรับว่าการใช้พลังงานทดแทนบริษัทมาตรฐานของค่ายรถยนต์ไม่ยอมรับ แม้กระทั่งบี 10 ยังไม่รับเลย ดังนั้นทุกวันนี้ชาวสวนเข้าใจและยินยอมพร้อมใจที่จะรับผิดชอบตัวเอง สู้มาตลอดจนทำให้ราคาปาล์มอยู่ขยับขึ้น 2.80- 3.20 บาทต่อกิโลกรัม (ณ วันที่ 15 มิ.ย.62) ก็เพราะชาวสวนร่วมมือกันทำให้มีจุดแบ่งปันทั้งประเทศกว่า 100 จุด ในบริเวณภาคใต้ทำให้ดีเซลขายไม่ได้ เจ้าของปั๊มเริ่มบ่นกันเสียงขรมแล้ว ต้องปรับตัวเอา บี 20 มาแข่งสู้ แล้วยังใช้กองทุนน้ำมันมาลดราคาลิตรละ 5 บาทอีก ยอมรับว่าเกษตรกรเสียเปรียบ”
นายชโยดม กล่าวว่า การที่อธิบดีกรมการค้าภายในไปปรับราคาเพิ่มปลายทางที่ขวดละ 36 บาทต่อกิโลกรัม ใครได้! ประโยชน์ คิดได้แค่นี้หรือ? คนที่ได้ประโยชน์แล้วกำไร 10 บาทที่เพิ่มขึ้น คือ นายทุน โช่ห่วย ยี่ปั๊ว และร้านค้าต่างๆ หลุดไปเป็นผลิตภัณฑ์แล้ว จะย้อนกลับมาที่ราคาผลปาล์มได้อย่างไร เกษตรกรจะได้ประโยชน์อย่างไร
วิธีแก้ง่ายที่สุด ก็คือ ต้องมาแก้ราคาผลปาล์ม เมื่อผลปาล์มขยับขึ้น โรงงานจะปรับตัว ส่งสัญญาณที่ร้านค้าที่ขายจะค่อยๆ ไล่ระดับราคาขึ้น ซึ่งในตอนแรกคนที่มีสต็อกตุนเยอะจะได้เปรียบแต่พอเวลาผ่านไปจะสมดุลทั้งสองด้าน แต่การไปปรับราคาที่ปลายทาง เป็นการเพิ่มค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค เหมือนเป็นการปรับราคาเอาใจนายทุนชัดเจน ดังนั้นรัฐวันนี้ไม่ใช่ที่พึ่งของเกษตรกรแล้ว ดังนั้นต้องพึ่งตนเองดีที่สุด