กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โชว์ผลงานการค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการไทยในช่วงครึ่งปีแรกผ่าน Thaitrade.com ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เติบโตถึง 63% จากการทำตลาดออนไลน์เชิงรุกและร่วมมือกับพันธมิตรอีคอมเมิร์ซชั้นนำทั่วโลกในการดันสินค้าไทยส่งออกต่างประเทศ
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย มูลค่าการค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2562 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 เมษายน 2562) อยู่ที่ 784 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 62.66 เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยเป็นคำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และ อินเดีย ตามลำดับ นอกจากนี้ ประเภทสินค้าที่มีการเข้าชมผ่านเว็บไซต์สูงสุดในช่วงดังกล่าว คือ สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเกษตร เสื้อผ้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน เคมีภัณฑ์และเครื่องจักรกล โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายในปีนี้สูงกว่า 1,000 ล้านบาท
“ในปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับการพัฒนาเว็บไซต์ Thaitrade.com เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ซื้อ-ผู้ขาย รองรับการค้าแบบ B2B2C ทั้งในและต่างประเทศ และเพิ่มบริการพิเศษบนเว็บไซต์ อาทิ ฟังก์ชั่น e-Quotation, Online & Offline Business Matching รวมทั้ง
ปรับโฉมศูนย์ให้บริการ Thaitrade.com Center ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ (ชั้น 5) ให้ทันสมัย และตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศผ่านทางเว็บไซต์ Thaitrade.com ได้อย่างครบวงจร และสามารถต่อยอดสู่แพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ในระดับสากล ซึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมา กรมฯ มีความร่วมมือกับพันธมิตรอีคอมเมิร์ซชั้นนำระดับโลกในการผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วย ได้แก่ Amazon.com (ตลาดอเมริกา) Gosoko.com (ตลาดแอฟริกา) HKTDC.com (ตลาดฮ่องกง) JD.ID (ตลาดอินโดนีเซีย) JD.com (ตลาดจีน) และ ShopJJ.co (ตลาดสิงคโปร์) ฯลฯ
นอกจากนี้ กรมฯ ได้เร่งทำการตลาดออนไลน์เชิงรุกเพื่อให้สินค้าไทยเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อจากต่างประเทศมากขึ้น ผ่านการใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่สำคัญ อาทิ การทำ Search Engine Marketing (Google และ Baidu) การโฆษณาออนไลน์ทั้งเว็บไซต์เครือข่ายและสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Instagram และ Youtube การสร้างการรับรู้ผ่านการดำเนินงานร่วมกับ Key Opinion Leader หรือ KOL ในประเทศต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งมีการทำแคมเปญออนไลน์ต่าง ๆ ที่ดึงจุดแข็งของสินค้าไทยเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้า” นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว
ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่เว็บไซต์ Thaitrade.com ทำหน้าที่ในการเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้มีเวทีแข่งขันบนโลกยุคดิจิทัล สถิติการซื้อขายออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ตั้งแต่เปิดให้บริการเดือนกรกฎาคม 2554 จนถึงเดือนเมษายน 2562 มีสมาชิกผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 181,088 ราย โดยประเทศที่เป็นสมาชิกผู้ซื้อมากที่สุด ได้แก่ อินเดีย จีน อเมริกา เวียดนาม และมาเลเซีย มีสมาชิกผู้ขายบนเว็บไซต์ฯ รวม 23,172 ราย และมีสินค้าขายบนเว็บไซต์จำนวน 263,356 รายการ ครอบคลุม 52 หมวดหมู่สินค้า โดยมีผู้เข้าชมเว็บไซต์รวม 7,749,344 ราย จาก 237 ประเทศทั่วโลก และมีมูลค่าการซื้อขายสินค้าที่มีหลักฐานผ่านเว็บไซต์ราว 6,343 ล้านบาท