บีโอไอเสริมแกร่งเอสเอ็มอีดันไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง

10 ก.ค. 2562 | 07:06 น.

          บีโอไอ จับมือหน่วยงานพันธมิตร จัดสัมมนาให้ความรู้ผู้ประกอบการ ยกระดับศักยภาพการแข่งขันเอสเอ็มอีไทยในตลาดโลก  ชูเทคโนโลยีและนวัตกรรมพัฒนาแบรนด์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยก้าวข้ามประเทศรายได้ระดับปานกลาง

บีโอไอเสริมแกร่งเอสเอ็มอีดันไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง

                นายเศกสรรค์  เรืองโวหาร  ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน  (บีโอไอ) เปิดเผยว่า  บีโอไอได้ดำเนินการจัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ พลังขับเคลื่อน SMART SMEs เติบโตอย่าง Strong” โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการพัฒนาผู้ประกอบการไทย ให้เป็นสมาร์ทเอสเอ็มอีที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูง ทั้งในส่วนของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการพัฒนาแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งจะช่วยสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งให้กับประเทศในระยะยาว

ทั้งนี้  ภายในงานได้เชิญหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ ธสน. (EXIM BANK) คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ มาร่วมให้ความรู้ผู้ประกอบการ จำนวนกว่า 200 คน

การก้าวพ้นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง ประชากรจะต้องมีรายได้ 13,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4 แสนบาทต่อคนต่อปี  ซึ่งการจะไปถึงเป้าหมายนั้น  ต้องส่งเสริมให้เกิดการลงทุนที่ใช้วิทยาศาสตร์  เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นพื้นฐาน เพื่อยกระดับความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

นายเศกสรรค์ กล่าวต่อไปอีกว่า  การจะทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นการเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลางและเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น  บีโอไอจึงเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีส่วนผลักดันเป้าหมายดังกล่าว  ผ่านการส่งเสริมการลงทุนที่มีคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในห่วงโซ่การผลิตที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ ไม่ใช่แค่การเป็นฐานการผลิตที่ใช้แรงงานราคาถูกเหมือนในอดีต

บีโอไอเสริมแกร่งเอสเอ็มอีดันไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าบีโอไอให้ความสำคัญและให้สิทธิประโยชน์สูงสุดแก่โครงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา และการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง อุตสาหกรรมเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งให้กับประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

นอกจากนี้ การพัฒนาแบรนด์ ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มสูงเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จระดับโลกจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูงทั้งสิ้น อาทิ แบรนด์ แอปเปิ้ล จะให้ความสำคัญกับการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม และพัฒนาแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุดให้กับสินค้าและบริการนั้น

สำหรับยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนระยะ 7 ปี (พ.ศ.2558-2564) บีโอไอได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ  พร้อมวางทิศทางการส่งเสริมการลงทุนใหม่ที่เน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะใน 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีวัสดุ และดิจิทัล นอกจากนี้ ยังบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา ผ่านการส่งเสริมสหกิจศึกษา ระบบทวิภาคี และดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ผ่านระบบ SMART Visa เป็นต้น

บีโอไอเสริมแกร่งเอสเอ็มอีดันไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง

อย่างไรก็ดี  ในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี บีโอไอมุ่งส่งเสริมด้วยการให้สิทธิประโยชน์ที่สูงและผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการลง รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับเอสเอ็มอีไทย ส่งเสริมให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย และสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนเพื่อช่วย   ลดต้นทุนการผลิต

ในงานสัมมนาดังกล่าวยังมีวิทยากรร่วมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในเรื่องการสร้างแบรนด์สินค้าและบริการ ผ่านการเสวนา เรื่อง เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ SMART SMEs เติบโตอย่าง Strong  โดยอาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท ฟู้ด แพชชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์บาร์บีคิว พลาซ่า บริษัท โอคุสโน่ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์คางกุ้ง แบรนด์ โอคุสโน่ และบริษัท เนอเชอร์แคร์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ Reis Care