Play
องค์การสะพานปลายันไม่ล้มแลนด์มาร์ก5พันล้าน ชง ‘ฉัตรชัย’ คุยคลังขอเช่าที่30ปี
บิ๊กองค์การสะพานปลา ยันยังไม่ล้มเมกะโปรเจ็กต์ "Bangkok Seafood Complex" มูลค่า 5 พันล้าน เผยส่งการบ้านให้รัฐมนตรีเกษตรฯ เจรจาคลัง หวังเปลี่ยนสัญญาเช่าใหม่จากรายปี เป็นสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หวังแจ้งเกิดแลนด์มาร์กใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา ยันปีนี้องค์กรมีกำไรชัวร์ หลังล้างขาดทุนได้แล้วใน 6 เดือน พร้อมวางแผนปั้นโมเดลยุทธศาสตร์ 5 ปี
ผศ. มานพ กาญจนบุรางกูร ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์กลางอาหารทะเลกรุงเทพ (Bangkok Seafood Complex) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับภาคเอกชน (พีพีพี) บนพื้นที่ของสำนักงานองค์การสะพานปลาที่ถนนเจริญกรุงในปัจจุบัน ซึ่งคาดจะมีมูลค่าการลงทุน กว่า 5 พันล้านบาทว่า ยังไม่ล้มแผนพัฒนาโครงการ อย่างไรก็ดีระหว่างนี้ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้ทาง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจรจากับรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เนื่องจากที่ดินเป็นของกรมธนารักษ์ ซึ่งมีสัญญาเช่าเป็นปีต่อปี จะขอปรับเปลี่ยนให้เป็นสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 30 ปี
ผู้อำนวยการอสป. กล่าวเพิ่มเติมว่าหากโครงการสามารถดำเนินการได้ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี จะช่วยเพิ่มการลงทุนในประเทศสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการลงทุน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มการจ้างงานในทุกมิติ อาทิ วัสดุก่อสร้างจะขายดีขึ้น อีกด้านหนึ่งจะเกิดการซื้อขายสินค้าอาหารทะเลจากตลาดสัตว์น้ำที่ได้มาตรฐานสากลทั้งจากในและต่างประเทศ ที่สำคัญจะเป็นโครงการที่นำพาให้ อสป.ก้าวไปสู่ธุรกิจใหม่ที่จะมีรายได้เลี้ยงตัวเองในระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งรัฐบาล
สำหรับผลการดำเนินงานของ อสป.ระหว่างปี งบประมาณ 2553-2557 ค่อนข้างผันผวน สาเหตุสำคัญเกิดจากรายได้การดำเนินงานมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากภาวการณ์ประมงซบเซาจากปัญหาน้ำมันดีเซลราคาสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนทำประมงสูงขึ้น จึงส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานขาดทุนกว่า 18 ล้านบาท แต่พอมาถึงงบประมาณ ปี 2558 ก้าวสู่เข้าปีงบประมาณ 2559 สามารถทำให้ล้างการขาดทุนได้แล้วใน 6 เดือน และกำลังที่จะดำเนินการให้มีผลกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง นอกจากนี้ยังมีแผนปรับบทบาทการดำเนินการ 5 ปี (ปี 2559-2563) ทั้งแผนระยะสั้น ระยะยาว เพื่อยกระดับการบริหารจัดการชาวประมง ผู้ประกอบการทางด้านธุรกิจอาหารทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้าประมง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 27 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559
ผศ. มานพ กาญจนบุรางกูร ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์กลางอาหารทะเลกรุงเทพ (Bangkok Seafood Complex) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับภาคเอกชน (พีพีพี) บนพื้นที่ของสำนักงานองค์การสะพานปลาที่ถนนเจริญกรุงในปัจจุบัน ซึ่งคาดจะมีมูลค่าการลงทุน กว่า 5 พันล้านบาทว่า ยังไม่ล้มแผนพัฒนาโครงการ อย่างไรก็ดีระหว่างนี้ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้ทาง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจรจากับรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เนื่องจากที่ดินเป็นของกรมธนารักษ์ ซึ่งมีสัญญาเช่าเป็นปีต่อปี จะขอปรับเปลี่ยนให้เป็นสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 30 ปี
ผู้อำนวยการอสป. กล่าวเพิ่มเติมว่าหากโครงการสามารถดำเนินการได้ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี จะช่วยเพิ่มการลงทุนในประเทศสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการลงทุน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มการจ้างงานในทุกมิติ อาทิ วัสดุก่อสร้างจะขายดีขึ้น อีกด้านหนึ่งจะเกิดการซื้อขายสินค้าอาหารทะเลจากตลาดสัตว์น้ำที่ได้มาตรฐานสากลทั้งจากในและต่างประเทศ ที่สำคัญจะเป็นโครงการที่นำพาให้ อสป.ก้าวไปสู่ธุรกิจใหม่ที่จะมีรายได้เลี้ยงตัวเองในระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งรัฐบาล
สำหรับผลการดำเนินงานของ อสป.ระหว่างปี งบประมาณ 2553-2557 ค่อนข้างผันผวน สาเหตุสำคัญเกิดจากรายได้การดำเนินงานมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากภาวการณ์ประมงซบเซาจากปัญหาน้ำมันดีเซลราคาสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนทำประมงสูงขึ้น จึงส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานขาดทุนกว่า 18 ล้านบาท แต่พอมาถึงงบประมาณ ปี 2558 ก้าวสู่เข้าปีงบประมาณ 2559 สามารถทำให้ล้างการขาดทุนได้แล้วใน 6 เดือน และกำลังที่จะดำเนินการให้มีผลกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง นอกจากนี้ยังมีแผนปรับบทบาทการดำเนินการ 5 ปี (ปี 2559-2563) ทั้งแผนระยะสั้น ระยะยาว เพื่อยกระดับการบริหารจัดการชาวประมง ผู้ประกอบการทางด้านธุรกิจอาหารทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้าประมง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 27 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559