คอลัมน์ แบรนด์สตอรีส์ โดย : กฤษณ์ ศิรประภาศิริ
SUMMER ปีนี้ ผมมาอยู่อเมริกาเป็นเดือน จนจะล่วงย่างเข้า FALL ใบ้ไม้เปลี่ยนสีงดงาม
PRESIDENT DONALD TRUMP พูดทุกวันและเป็นข่าวได้ทุกวัน จน “ผู้อยู่อาศัย” ตื่นมาวันใดหากไม่ได้ยินชื่อ DONALD TRUMP ไม่ได้ยินข่าวทาง TV หรือเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ อาจงงว่า “เอ๊ะ เราคงไม่ได้อยู่ในอเมริกา”
คนที่ชอบ ก็ชมว่า PRESIDENT คนนี้ มีนโยบายถูกใจยิ่งนัก MAKE AMERICA GREAT AGAIN และด้วยความเป็น “นักธุรกิจ” (ที่ผ่านความล้มเหลวและความสำเร็จ) ไม่เหมือนประธานาธิบดีที่ส่วนใหญ่มาจาก “นักกฎหมาย” PRESIDENT คนนี้ สามารถ “ทำ” ในสิ่งที่ “พูด” ได้ดีนัก
ข้อสำคัญ เขาภูมิใจว่า PRESIDENT DONALD TRUMP สามารถเรียกเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี ประเทศอเมริกากลับมา อย่างไปเยือนจีน ก็สามารถ “สั่ง”ให้ จีนทำในสิ่งที่ตนปรารถนา ไม่เหมือนอดีตประธานาธิบดี OBAMA ที่ไปไหนก็ “จ๋อง” และใช้วิธี “ขอร้อง” มากกว่า
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ชอบ มักตั้งข้อหา “HE TALKS TOO MUCH , HE SHOLD KEEP HIS MOUTH SHUT” (HA)
ที่แน่นอน คนของพรรค DEMOCRAT ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับพรรค REPUBLICAN ไม่ชอบแน่ และพยายามเลื่อยขาเก้าอี้ไม่ให้อยู่จนครบเทอม 4 ปี ยิ่งจะอยู่ถึง 2 เทอม 8 ปี หลายคนในพรรค DEMOCRAT คงอกแตกตาย
ที่ผ่านมาในอดีต คนส่วนใหญ่ในอเมริกามักจะยอมรับ “ประธานาธิบดี” ให้ทำงานได้ครบเทอม 4 ปี และถ้าไม่เลวร้ายมากก็จะให้อยู่อีก 4 ปี
เมื่อครบ 2 เทอม ก็จะให้โอกาส “พรรคตรงข้าม” มาบริหาร นี่เป็นรูปแบบ “ประชาธิปไตย” ของประเทศที่เจริญแล้ว
ไม่เหมือนประเทศ “ด้อยพัฒนา” ที่ “คนถืออาวุธ” จะขอมา “ขัดจังหวะ” ด้วยเหตุผลหลัก คือ “ความสงบสุขของประเทศ”
ซึ่งน่าฟังมาก (หาก “กำลัง” ของฝ่ายตนไม่ได้เป็นคนเริ่มหรือหนุนความไม่สงบสุขเสียเอง (ฮา))
ว่ากันว่า ประเทศที่เจริญ “ทหาร” ต้องอยู่ใต้ “พลเรือน” (ครับ)
ผู้นำพลเรือนสามารถปลด “นายพล 5 ดาว” เหรียญกล้าหาญเต็มอกได้อย่างง่ายๆ หากกระทำการห้าวหาญไม่อยู่ในกรอบ ซึ่งผิดกับในประเทศด้อยพัฒนา หากมีข่าวรั่วออกไปว่าจะมีการย้าย “ผู้บัญชาการทหารบก” ไม่ถึงวันรุ่งขึ้นหรอกครับ “ปฏิวัติ” เกิดแน่
ก่อนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ออกมา สื่อมวลชนที่แบ่งค่ายกันเชียร์ ผู้สมัครระหว่าง HILLARY CLINTON กับ DONALD TRUMP ส่วนหนึ่งแน่นอน เพราะ “นายทุน” ที่สังกัดพรรค อีกส่วนที่เชื่อโดยความบริสุทธิ์ใจว่า “ผู้สมัคร” (โดยเฉพาะ นาย DONALD TRUMP) แย่จริงๆ ไร้ศีลธรรม จรรยา ฯลฯ
หลังการเลือกตั้ง กระแสที่โจมตี PRESIDENT DONALD TRUMP ไม่ได้ลดลง กลับเพิ่มหนักขึ้นทุกวัน ส่วนหนึ่งเพราะ “นายทุน” ที่อยู่เบื้องหลังช่องทีวี สำนักพิมพ์ ส่วนหนึ่ง “เสียหน้า” ที่โจมตี DONALD TRUMP ไว้มาก และไม่คิดว่า “จะชนะ” ด้วย “ศักดิ์ศรี” ของ “นักข่าวใหญ่” ต้องหาทาง DISCREDIT ต่อไป (เพื่อสร้าง CREDIT ให้กับตนเอง (ฮา))
แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า PRESIDENT DONALD TRUMP ท่าน “หาเรื่อง” พูด หาเรื่อง TWITTER ให้ “เป็นเรื่อง” ได้ทุกวัน
TRADE WAR สงครามที่ประธานาธิบดี DONALD TRUMP ประกาศกับจีน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย MAKE AMERICA GREAT AGAIN เอา “งาน” กลับมาทำที่ประกาศสหรัฐอเมริกา และลด TRADE DEFICIT
อเมริกาอ้างว่า จีนค้าขายโดย “UNFAIR” และ ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ
การขึ้นภาษี นำเข้าสินค้าจากจีน แน่นอน ราคาสินค้าบริโภคอุปโภคในอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่ MADE IN CHINA ต้องแพงขึ้นอย่างแน่นอน เริ่มแรก 5% ตอนนี้ 15% และมีข่าวว่าจะขึ้นไปถึง 25%
ร้านอาหารจีนที่คุ้นเคยใน SAN FRANCISCO เจ้าของเดินมาบ่นที่โต๊ะว่าเครื่องใช้จานชามตะเกียบที่มาเสิร์ฟ ราคาขึ้นไปหลายเปอร์เซ็นต์ (เนื่องจากภาษี) สงสัยต้องหาซื้อจากประเทศอื่น
เสื้อผ้า ผ้า จิวเวลรี ฯลฯ ในห้าง RETAILERS ขึ้นหมด
สงครามระหว่าง สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำเข้าใหญ่สุดในโลก กับจีนซึ่งเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก นับวันคงเข้มข้น ว่ากันว่า หลายคนภาวนาไม่ให้ประธานาธิบดี
DONALD TRUMP อยู่ต่ออีกสมัย (ประเด็น “สงครามการค้า” คงเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้ง คศ. 2020)
สงครามนี้ กระทบคนทั้งโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจและ “จิตใจ”
MOOD ของผู้บริโภค ถดถอย ผลการจับจ่ายใช้สอย ลดลง
เข้า QUARTER สุดท้ายแล้ว บริษัทห้างร้านหวังว่า “เทศกาลสำคัญ” จะมากอบกู้สถานการณ์
เราจะรํ่าลา “ปีที่ผันผวน” กันอย่างไร ในโลกที่ไม่ใช่ “ใบเดิม” สบายๆ ครับ
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3510 ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2562