thansettakij
AOT วางเดทไลน์เม.ย.2568 ได้ข้อสรุปทบทวนแผนแม่บท สนามบินสุวรรณภูมิแสนล้าน

AOT วางเดทไลน์เม.ย.2568 ได้ข้อสรุปทบทวนแผนแม่บท สนามบินสุวรรณภูมิแสนล้าน

29 ธ.ค. 2567 | 04:12 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ธ.ค. 2567 | 04:13 น.

รัฐบาลตั้งเป้ายกระดับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 58 ของโลก AOT จึงต้องเดินหน้าขยายสนามบินเต็มเฟส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บท ซึ่งจะได้ข้อสรุปในเดือนเมษายน ปี 2568

ปัจจุบัน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT หรือ ทอท.อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขยายศักยภาพของสนามบินสุวรรณภูมิในระยะ 10 ปี (ปี 2567-2577) รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 150 ล้านคนต่อปี ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทที่ปรึกษา วงเงินจัดจ้าง 170 ล้านบาท เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการลงทุนในปัจจุบัน

AOT วางเดทไลน์เม.ย.2568 ได้ข้อสรุปทบทวนแผนแม่บท สนามบินสุวรรณภูมิแสนล้าน

โดยในขณะนี้มี 2 โครงการใหม่ที่ชัดเจนแล้วว่าทอท.จะเดินหน้าลงทุนแน่นอน ได้แก่

1. การขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก หรือ East Expansion วงเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทอท.จะดำเนินการเปิดประมูลในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 คาดจะรู้ผลและเซ็นสัญญาได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2568 คาดเริ่มก่อสร้างในกลางปี 2568 แล้วเสร็จในเดือนกรกฏาคม 2571

ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียด เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มพื้นที่ได้อีก 8.1 หมื่นตร.ม. รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคน ทำให้ขีดความสามารถรวมของสุวรรณภูมิจาก 65 ล้านคน/ปี เพิ่มเป็น 80 ล้านคน/ปี

East Expansion East Expansion

2. การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ซึ่งอยู่ด้านทิศใต้ของสนามบิน หรือ South Terminal พร้อมรันเวย์ 4 วงเงินลงทุนรวม 1.7 แสนล้านบาท (เฉพาะการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท) คาดประมูลก่อสร้างในปลายปี 2570 แล้วเสร็จในปี 2575

แผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ แผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ

เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มการรองรับผู้โดยสารอีก 70 ล้านคนต่อปี เป็นรูปแบบ Mega Terminal เพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ใกล้อาคารผู้โดยสาร โดยมีระบบทางด่วนและรถไฟฟ้า เชื่อมเข้าอาคารด้านทิศใต้โดยตรง

ในส่วนของโครงการลงทุนอื่นในสนามบินสุวรรณภูมิ อย่าง ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก หรือ West Expansion เพื่อเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลักเป็น 5.6 แสนตรม. รวมถึงอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (SAT-2 ) ทอท.อยู่ระหว่างการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อพิจารณาว่าสมควรจะลงทุนใน 2 ส่วนนี้อีกหรือไม่

“ปัจจุบัน AOT มีแผนจะลงทุนส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก รวมถึงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอยู่แล้ว รวมถึงการก่อสร้างรันเวย์ 4 ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคนต่อปี รองรับเที่ยวบินได้ถึง 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมง

ดังนั้นเราจึงต้องมาทบทวนความเหมาะสม ว่าถ้าเรามีการเพิ่มการลงทุนใหญ่ๆเหล่านี้ไปแล้ว ยังมีความจำเป็นที่จะขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก และ SAT-2 หรือไม่ โดยต้องพิจารณาความต้องการทั้ง Air side และ Land side ด้วย คาดว่าการทบทวนแผนแม่บทจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในเดือนเมษายน 2568” นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT กล่าวทิ้งท้าย

กีรติ กิจมานะวัฒน์ กีรติ กิจมานะวัฒน์

ทั้งนี้ตามแผนเดิม การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ จะมีโครงการลงทุนส่วนต่อขยายด้านตะวันตก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (West Expansion) ที่จะเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลักเป็น 5.6 แสนตารางเมตร รวมถึงก่อสร้าง อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (SAT-2 ) แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทบทวน ซึ่งพื้นที่เดิมที่จะใช้เป็น SAT-2 ก็อาจจะปรับมาให้บริการเที่ยวบินสำหรับเครื่องบินขนส่งสินค้าทางอากาศหรือเที่ยวบินคาร์โก้ โดยเฉพาะ เป็นต้น

ไม่เพียงแต่การขยายสนามบินที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการก่อสร้างเท่านั้น ในระหว่างเพื่อรองรับดีมานต์ของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง AOT ยังเน้นการทำเทคโนโลยี มาใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสารที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

โดยปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้ง Self Check-in (Kiosk) จำนวน 250 เครื่อง ติดตั้งระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) จำนวน 40 จุด ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติทั้งขาเข้าและขาออก (Auto Gate) 80 จุด และจะเพิ่มอีก 120 จุดในอนาคต

AOT วางเดทไลน์เม.ย.2568 ได้ข้อสรุปทบทวนแผนแม่บท สนามบินสุวรรณภูมิแสนล้าน

ทั้งยังมีเป้าหมายจะเปิดใช้ระบบ Autogate ทั้งหมดสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศและผู้โดยสารภายในประเทศ เหมือนกับสนามบินชางงีที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากที่ปัจจุบันระบบดังกล่าวสามารถช่วยลดระยะเวลารอคอยผู้โดยสารขาออกให้เหลือเพียง 2 นาที/คน จากเดิมที่ 30-40 นาที/คน

นอกจากนี้ทอท. ได้เตรียมศึกษาแผนเปิดใช้งานระบบ Early Check-in ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง สำหรับทุกสายการบินเพื่อลดความแออัดและเพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสารที่มาก่อนเวลา หากศึกษาแล้วเสร็จคาดว่าจะเปิดใช้ได้ในช่วง ก.พ.68

ทั้งยังเตรียมเปิดให้บริการพื้นที่พักผ่อนใหม่ภายในสนามบิน โดยเป็นพื้นที่ให้ผู้โดยสารพักคอย และ Co-working Space ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางในการให้บริการผู้โดยสารมากขึ้น คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.67 รวมถึงสนามเด็กเล่นมีกำหนดแล้วเสร็จช่วง ก.พ.68 นี้อีกด้วย

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,053 วันที่ 15 - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567