ในแวดวงการตลาด แต่ละปีจะมีสินค้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งสินค้าในกลุ่มอุปโภค บริโภค รวมถึงบริการต่างๆ ในปี 2562 ก็เช่นกัน การนำเสนอสินค้านวัตกรรมยังเป็นกลยุทธ์หลักที่หลายแบรนด์สินค้านำมาใช้ในการสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขาย ขณะเดียวกันก็มีแบรนด์ที่ได้รับกระแสนิยมจนกลายเป็น “ดาวรุ่ง” แต่เมื่อมีแบรนด์ยอดนิยม ก็ต้องมีแบรนด์ที่ถูกเรียกว่า “ดาวร่วง” ซึ่งมีสาเหตุทั้งจากการทำตลาดไม่โดนใจลูกค้า รวมถึงไม่ตอบโจทย์เทรนด์โลกที่เปลี่ยนไป
สำหรับ “ดาวรุ่ง” ที่มาแรงและยังเป็นเทรนด์ส่งสัญญาณสดใสต่อเนื่องไปยังปีหน้า เห็นจะหนีไม่พ้น 3 กลุ่มสินค้านี้ เริ่มต้นที่ “สินค้ารักษ์โลก” จากกระแส “ขยะพลาสติก” ล้นเมืองและกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายสมาคมกว่า 75 ร้านค้า รวมช่องทางขายกว่า 2.4 หมื่นช่องทาง งดให้ถุงพลาสติก ทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ รวมถึงร้านเซเว่นอีเลฟเว่น อีกกว่า 1 หมื่นสาขาก็จะงดให้ถุงพลาสติกเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่จะไปซื้อสินค้าก็ต้องเตรียมถุงผ้าหรือภาชนะไปใส่สินค้าเองด้วย การขยับตัวนำเสนอสินค้ารักษ์โลกอย่างจริงจังของผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน แน่นอนว่าในปีนี้ “สินค้ารักษ์โลก” กลายเป็นกระแส นิยม และเชื่อว่าในปีหน้าก็ยังร้อนแรงไม่แพ้กัน
อีกหนึ่งสินค้าร้อนแรงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน คือ “สมาร์ทโฮม” หากย้อนดูภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยในปีนี้ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 3% หลังจากตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น โดยปัจจัยหลักคือการเข้ามาของนวัตกรรม IoT และ AI ที่ถือเป็นหัวหอกสำคัญในการไดรฟ์ตลาดให้กลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้งก้าวต่อไปของ “สมาร์ทโฮม” ไทยในปีหน้ามีการคาดการณ์ว่าจะยิ่งเติบโตเป็นทวีคูณ เพราะนอกจากเทคโนโลยีสุดลํ้าที่ยักษ์ใหญ่แบรนด์ดังยกทัพมาบุกตลาดไทยแล้ว การเข้ามาของเทคโนโลยี 5G ที่ภาครัฐพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น ยิ่งเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เติบโตแซงหน้าธุรกิจอื่นได้อย่างไม่ยากเย็น
อีกหนึ่งกระแสที่เกิดได้จาก “เทคโนโลยี” คือ การเข้ามาของแอพพลิเคชัน “สตรีมมิ่ง” ได้รับความนิยมตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เล่นสื่อเดิม เข้าไปร่วมเป็นพันธมิตรกับแอพพลิเคชันสตรีมมิ่งต่างๆให้เห็นมากขึ้น อาทิ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ร่วมมือกับ Viu, รวมทั้ง BEC-Tero Music ที่จับมือร่วมกับ JOOX Music Application ทำโปรเจ็กต์พิเศษ “SEVEN JOURNEY 7 นี้อีกนาน” หวังขยายแพลตฟอร์มผู้ฟัง และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพลงให้กลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยเป้าหมายที่ต้องการเข้าให้ถึงผู้บริโภคในทุกเพศ ทุกวัย ผ่านทุกๆ แพลตฟอร์ม ก่อนต่อยอดสู่รายได้ที่ตามมา “สตรีมมิ่ง” จึงส่งสัญญาณความนิยมที่ขยายตัวมากขึ้นในปีนี้ และปีหน้า
หันกลับมาดูสินค้าและบริการที่เป็น “ดาวร่วง” หนีไม่พ้นอุตสาหกรรม “ทีวีดิจิทัล” แม้จะแจ้งเกิดมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี หลายคนอาจมองว่าเป็น “ดาวร่วง” ตั้งแต่ปีแรก เพราะเสียเม็ดเงินประมูลมูลค่าสูงมาก แต่ยังไม่เคยทำรายได้ หรือส่งสัญญาณที่จะมีกำไรให้เห็น แต่เมื่อ “กสทช.” เปิดช่องให้ผู้ประกอบการที่ไม่ไปต่อในธุรกิจ สามารถขอคืนใบอนุญาตประกอบกิจการได้
จึงเป็นที่มาให้ทั้ง “7 ช่อง” ได้แก่ ไบรท์ ทีวี ช่อง 20, สปริงนิวส์ 19, สปริง 26 (NOW) , วอยซ์ ทีวี , MCOT Family ช่อง 14 , ช่อง 3 แฟมิลี่ และช่อง 3 เอสดี ต้องปิดฉากการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัล โดยบางรายเลือกที่จะไปอยู่ในแพลตฟอร์มอื่น ส่วนบางรายก็ขอปิดตัวเองลง
อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่สร้างความฮือฮาเมื่อครั้งเปิดตัว “เบียร์ 0%” เพราะหลายคนสงสัยว่า เบียร์อะไร ทำไม 0% หมายถึงไม่มีแอลกอฮอล์หรือ มี แล้วทำไมถึงเป็น 0% ดื่มแล้วจะเมามั้ย ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ ถือเป็นสิ่งใหม่ที่ท้าทายนักดื่มไทย ให้อยากลอง แต่อีกมุมก็มองว่า เบียร์ 0% ก็เป็นอีกกลเม็ดที่ผู้ประกอบการออกมาเพื่อเลี่ยงภาษี ที่มีการจัดเก็บตามปริมาณแอลกอฮอล์
แต่แล้ว “เบียร์ 0%” ก็สะดุดตอเข้าจังเบ้อเร่อ เมื่อกรมสรรพสามิตออกตัวแรง เสนอให้จัดเก็บภาษีเบียร์ 0% แม้มาตรการยังคลุมเครือ แต่กรมสรรพสามิต ก็ยืนยันว่าเตรียมเก็บภาษีเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ในปี 2563 อย่างแน่นอน โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดนักดื่มหน้าใหม่ ส่วนจะจัดเก็บในปริมาณเท่าใด คงต้องรอดูอีกที
เรื่องของการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตไม่ใช่เกิดเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ การจัดเก็บภาษีจากค่าความหวานหรือภาษีนํ้าหวาน ที่ผ่อนผันมาตลอด 2 ปี ก็เริ่มดีเดย์จัดเก็บจริงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา สิ่งที่ส่งผลอย่างชัดเจนคือ “เครื่องดื่มที่มีปริมาณนํ้าตาลสูง” ถูกลดบทบาทและความสำคัญลง ผู้ประกอบการในทุกกลุ่มสินค้าไม่ว่าจะเป็นนํ้าอัดลม ชาเขียว กาแฟ นํ้าผลไม้ แม้กระทั่งนมพร้อมดื่ม ต่างหันไปพัฒนาสูตรนํ้าตาลน้อย หรือโลว์ ชูการ์ ฯลฯ ออกมาทำตลาดแทน ส่งผลให้เครื่องดื่มที่มีนํ้าตาลสูง กลายเป็นดาวร่วงในทันที
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,534 วันที่ 26-28 ธันวาคม 2562