รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก กระจายเม็ดเงิน ซึมผ่านโครงการต่างๆ ล่าสุดรัฐบาลผนึกสมาคมการผังเมืองไทย คณะกรรมการกฎบัตรแห่งชาติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงวัฒนธรรม สถาบันการศึกษา อย่างมหาวิทยาลัยศิลปากร ตลอดจนเอกชนชั้นนำ รวมพลังสร้างความแข็งแกร่ง ให้เศรษฐกิจประเทศขับเคลื่อนต่อเนื่องในปี 2563 ประเมินว่า จะเกิดการตื่นตัวให้กับคนในพื้นที่อย่างคึกคัก
เปิด 3เมืองบูมเศรษฐกิจ
นายฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย ในฐานะกรรมการเลขานุการคณะกรรมการกฎบัตรแห่งชาติ (National Charter) กล่าวว่า สมาคมและคณะกรรมการกฎบัติแห่งชาติ เสนอ โครงการเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล เปิด 3 เมืองศักยภาพ ได้แก่ กรุงเทพ มหานคร นครสวรรค์ และเชียงใหม่ ให้เอกชนและท้องถิ่นร่วมจัดงานตามเอกลักษณ์ของเมือง ทั้งสตรีตฟู้ด ถนนคนเดิน ศิลปะ เรืองแสง โลหะปราสาท แสงสีเสียง การแสดง ร้านค้า ร้านอาหาร ศิลปะ ดนตรี พื้นเมือง พร้อมดึงนักลงทุนรายใหญ่ อย่างกลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มซีพี ฯลฯ ออกบูธให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนธุรกิจสตาร์ตอัพ ใช้งบประมาณปี 2563 วงเงิน 1,200 ล้านบาท ทำให้เกิดเงินสะพัดหมุนเวียน
1.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้จะเริ่มจัดงานได้ภายในเดือนเมษายน 2563 ปลุกย่านสำคัญของเมืองให้ตื่นจากหลับ ก่อนขยายพื้นที่จัดงานถนนคนเดินไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป
ยึดราชดำเนินปลุกเมืองเก่า
สำหรับในกรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรมร่วมมือกับคณะกรรมการกฎบัตรรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร และมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดทำโครงการ Bangkok Digital Art and Design 2020 หรือ BIDD2020 โดยกทม.จะใช้พื้นที่บนถนนราชดำเนินกลางทั้ง 2 ฝั่งเป็นสถานที่จัดแสดงหลัก เป็นโซนนิทรรศการ และพื้นที่ชุมชนขนาดใหญ่ของเกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่ ชุมชนเยาวราช พาหุรัด เวิ้งนาครเขษม ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ พระอาทิตย์ บางลำพู ย่านมรดก ชุมชนเก่าแก่ ซึ่งจะให้ผู้ประกอบการและชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่ร่วมกันจัดกิจกรรม คาดว่างานเทศกาลศิลปะและการออกแบบดิจิทัลนานาชาติช่วง 30 วันนี้จะมีผู้เข้าชมไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านคน สามารถฟื้นฟูย่านและเศรษฐกิจพื้นที่เขตชั้นใน ได้แก่ ย่านสำเพ็ง พาหุรัด เวิ้งนาครเขษม ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ แพร่งสรรพศาสตร์ บางลำพู และพื้นที่ต่อเนื่องได้
ไฮไลต์“ปากนํ้าโพ”เรืองแสง
นายสมศักดิ์ อรุณสุรัตน์ รักษาการรองประธานกฎบัตรแห่งชาติและประธานสภาเทศบาลนครนครสวรรค์กล่าวว่า จังหวัดนครสวรรค์เป็นพื้นที่ที่ถูกทิ้งจากแผนการพัฒนาของประเทศ ทำให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมซบเซา จึงมีการร่วมวางแผนปรับปรุงฟื้นฟูเมืองธีมนครสวรรค์เรืองแสง กิจกรรมเทศกาลศิลปะ การแสดง อาหาร และสุขภาพแห่งลุ่มนํ้าเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุดของพื้นที่บริเวณนี้
ขณะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายไพรัช โตวิวัฒน์ ประธานปฏิบัติการกฎบัตรเชียงใหม่ ระบุว่าจากหมอกควันและการตกตํ่าทางเศรษฐกิจอย่างหนัก สภาพการท่องเที่ยวแทบจะแบ่งฤดูการท่องเที่ยวกับฤดูนอกท่องเที่ยวไม่ออก เนื่องจากทั้ง 2 ฤดูมีนักท่องเที่ยวลดจำนวนลงพอๆ กัน ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการกฎบัตรเชียงใหม่จึงจัดทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจสร้างสรรค์ทั่วทั้งจังหวัด โดยให้พื้นที่เมืองเก่าเป็นไข่แดง จัดงานเทศกาลวัฒนธรรมเชียงใหม่นานาชาติด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้ชื่อ Chiangmai Creative Mind 2020 โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤศจิกายน 2563 คาดหวังจะมีผู้เข้าชม 2 ล้านคน
เชียงใหม่เน้นรักษ์สิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดงานนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ทุกจังหวัดจัดกิจกรรมในรูปแบบถนนคนเดินสร้างรายได้ให้ประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอัตลักษณ์วัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ รวมถึงจัดกิจกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้การบูรณาการจัดงานแบบประชารัฐ โดยกำหนดจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ ช่วงที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “เดิน กิน ชิม เที่ยว ถนนกลางเวียงเจียงใหม่” โดยใช้ถนนราชดำเนินและถนนพระปกเกล้า บริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
ซึ่งเชื่อมต่อจากถนนคนเดินกลางตัวเมือง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว รวมระยะทางประมาณ 300 เมตร เน้นจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น สินค้าเกษตร สินค้าโอท็อป สินค้าวัฒนธรรม สินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมือ ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง และสินค้าอื่นๆ อีกมาก รวมทั้งยังมีการนำศิลปวัฒนธรรมกิจกรรมการแสดงของเด็กและเยาวชน และกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ มาจัดแสดงในงานให้ได้รับชม
อีกด้วย
นอกจากนี้ยังสอดแทรกการรณรงค์ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่อีกด้วย โดยจะขอความร่วมมือให้พ่อค้าแม่ค้าลดการใช้ถุงพลาสติก แล้วหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อมแทน รวมถึงจะมีการจัดเตรียมถังขยะสำหรับคัดแยกขยะประเภทต่างๆ กระจายไว้ทั่วบริเวณจัดงาน และขอให้ประชาชนที่มาถนนคนเดิน นำถุงผ้ามาใช้ใส่ของ เพื่อร่วมกันลดปัญหาโลกร้อน
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3534 วันที่ 26-28 ธันวาคม 2562