นายชัยพร สีถัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยพรสหฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า กับ"ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สถานการณ์ตอนนี้ไก่สาวขาดแคลนหนัก เนื่องจากผู้เลี้ยงรายใหญ่โดนหั่นโควตา 40-60% นำเข้าจึงทำให้เกษตรกรรายกลางลำบากไม่มีไก่สาวเลี้ยงเพิ่ม ดังนั้นวันนี้ประเทศไทยจะเปิดเสรี หรือจะกำหนดแบบโควตา ต้องให้ชัดเจน สำหรับความต้องการ จำนวน 2 หมื่นตัว เพราะขยายการเลี้ยงเพิ่ม
ปัจจุบันเล้าเปิดในภาคตะวันตกที่มีอยู่ประมาณ 1.5 ล้านตัว แต่ที่จะนำไปเลี้ยงเพิ่มเป็นเล้าปิดในฟาร์มขนาดใหญ่ที่อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี เพราะต้องการพัฒนาคุณภาพ จะสร้างศรัทธาผู้บริโภค เนื่องจากที่ผ่านมาพ่อค้าจะอ้างว่าไข่ไก่สุพรรณบุรีเป็นไข่เปลือกไม่สวย ไม่มีคุณภาพ ไข่ไก่ฟองเล็ก จึงถูกกดราคาให้ต่ำก็มาจากเล้าเปิดที่พ่อค้าอ้าง จึงต้องทำระบบปิดทั้งหมด โดยใช้คุณภาพนำการผลิตพอทำเสร็จไปขอซื้อไก่สาวใครก็ไม่มีขายจึงจำเป็นที่จะต้องขอนำเข้าเอง ดังนั้นอยากให้กรมปศุสัตว์ช่วยเปิดทางขอนำเข้าด้วย
ด้านนายอรรณพ อัครนิธิยานนท์ กรรมการ บริษัท อรรณพฟาร์ม บ้านนา จำกัด (บจก.) หนึ่งใน 16 รายผู้นำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่ กล่าวสั้นว่า ถ้าไม่พอเลี้ยงก็ให้นำเข้าเพิ่ม แต่ควรจะให้เพิ่มสำหรับรายเก่าเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาโดนบังคับให้ลดการนำเข้าเป็นจำนวนมาก
อนึ่ง ปี 2562 คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) เมีมติเห็นชอบแผนการนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ (GP) และพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) ปี 2562 คือ 1) แผนการเลี้ยงปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ (GP) ปี 2562 จำนวน 3,800 ตัว (เดิม 5,500 ตัว) และ 2) แผนการเลี้ยงแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) ปี 2562 จำนวน 440,000 ตัว (เดิม 550,000 ตัว) และสำรองไว้ที่กรมปศุสัตว์อีก 20,000 ตัว ขณะที่ปี 2563 ยังไม่มีการประชุมเอ้กบอร์ด