ถอดรหัส "โออิชิ กรุ๊ป" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage

21 ม.ค. 2563 | 22:00 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 11:44 น.

ฉลองครบรอบ20 ปีพร้อมก้าวสู่ปี 2020 อย่างเข้มแข็งด้วยตัวเลขผลประกอบการ13,631ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 8% มีกำไร 1,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 21% ถือเป็นความสำเร็จของ "โออิชิ กรุ๊ป" ภายใต้การนำทัพของ "นงนุช บูรณะเศรษฐกุล" กรรมการผู้จัดการ

ก้าวต่อไปในอนาคตของ "โออิชิ กรุ๊ป" จะเป็นอย่างไร ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้าน และสมรภูมิแข่งขันอันดุเดือด ที่นี่มีคำตอบ

"นงนุช" ย้อนความให้ฟังว่า "โออิชิ" ขับเคลื่อนโดย 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ ธุรกิจเครื่องดื่ม, ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงพร้อมทาน  (ready to eat, ready to cook) ภายใต้วิชัน "ผู้นำนวัตกรรมเครื่องดื่มและอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่เติบโตอย่างยั่งยืน" ที่ผ่านมาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำเนินธุรกิจถูก Disrupt จากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้บริโภคให้ความสำคัญด้านสุขภาพ ความสะดวกสบาย ความพรีเมี่ยม ทั้งยังตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ถอดรหัส \"โออิชิ  กรุ๊ป\" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage

 

++ ชู 5 Pillars + 3 initiative

 

ดังนั้นการดำเนินธุรกิจของโออิชิต่อเนื่องจากปีก่อน ภายใต้ 5 pillars  ประกอบด้วย 1. การเติบโต(Growth) 2. ความหลากหลาย (Diversity) 3. ตราสินค้า (Brand) 4. การเข้าถึง (Reach) และ 5. ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism) โดยเน้นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้า การพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค การขยายช่องทางจำหน่ายที่เข้าถึงลูกค้าอย่างกว้างขวาง การเพิ่มปริมาณส่งออก รวมไปถึงการบริหารที่มีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล

 

ขณะเดียวกัน โออิชิ กรุ๊ป มุ่งเดินหน้าพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ใน 3 ด้านคือ ด้านสุขภาพและสุขอนามัย (Health & Wellness) พัฒนาสูตรอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ  2. การพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability)  โดยวางแนวทางให้ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจมีการพัฒนานวัตกรรม เพื่อแสดงความความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การสร้างโรงงานผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดการระบบกำจัดของเสียในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น 3. การมีเทคโนโลยีดิจิตัลที่ล้ำสมัย( Digital Adoption) เพื่อพัฒนาช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า ตลอดจนบริการต่างๆ ให้สะดวกรวดเร็ว

 " วันนี้โออิชิ กรุ๊ป เดินหน้าด้วย 5. Pillars + 3 initiative ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นผู้นำตามวิชันที่วางไว้ โดย End game คือสินค้าของเราต้องไปอยู่ในมือลูกค้าให้ได้"

ถอดรหัส \"โออิชิ  กรุ๊ป\" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage

 

 เดินหน้าบูมตลาดชาเขียว

การเดินหน้าใน3 กลุ่มธุรกิจ ล้วนต้องเผชิญกับสิ่งต่างๆมากมาย จึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์อย่างจริงจัง โดยมี 3 ขุนพลใน 3 กลุ่ม ธุรกิจ ได้แก่

 “ธุรกิจเครื่องดื่ม” โดยมี "เจษฎากร โคชส์"  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม คุมทัพ "โออิชิ" แบรนด์ชาเขียวที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี

ถอดรหัส \"โออิชิ  กรุ๊ป\" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage

"เจษฎากร" บอกว่า หลังจากปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มใหม่ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ลดลง แม้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นแต่ยังไม่กลับสู่ระดับเดิมในปี 2560 เห็นได้จากตลาดรวมชาเขียวพร้อมดื่มที่มีมูลค่ารวม 12,369 ล้านบาท เติบโต 2.2%  ซึ่งโออิชิมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 45%  กลยุทธ์การกระตุ้นตลาดจึงมุ่งเน้น 1. การขยายฐานผู้ดื่มกลุ่มวัยรุ่นอายุ 13-24 ปี โดยใช้แพลตฟอร์มเกมผ่านแคมเปญ OISHI x ROV  2. ขยายฐานพรีเมียม ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ เช่นการเปิดตัว โออิชิ โกลด์ เกียวคุโระ ชาเขียวพรีเมียม

3. ขยายตลาดส่งออกไป 33 ประเทศจากเดิมส่งออก 13 ประเทศ พร้อมสร้างแบรนด์ให้เติบโตในระดับภูมิภาคทั้ง กัมพูชา , สปป.ลาว รวมถึงเมียนมาร์ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ รวบกลุ่มนอน แอลกอฮอล์มาไว้รวมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำตลาดในอนาคตด้วย

ถอดรหัส \"โออิชิ  กรุ๊ป\" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage

 

 ตอกย้ำ King of Japanese Food

“ธุรกิจร้านอาหาร”  ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นนั้น

"ไพศาล อ่าวสถาพร" รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร กล่าวว่า เพื่อรักษาความเป็น King of Japanese Food กลยุทธ์การดำเนินงานจะขับเคลื่อนด้วย 1. Growth Engine : สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ผ่านการดำเนินงานเชิงรุกอย่างรอบด้าน ได้แก่ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูใหม่ ๆ การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เหมาะสม น่าสนใจ และการขยายสาขาใหม่ 26 แห่ง เพื่อเข้าถึงและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ เพิ่มเติมจากการสั่งซื้อผ่านทางโทร. 1773 ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งได้แก่ โออิชิเดลิเวอรี่ดอทคอม (www.oishidelivery.com) ควบคู่ไปกับการประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการสั่งอาหารแบบออนดีมานด์บนแอปพลิเคชันชั้นนำของไทยอย่าง แกร็บฟู้ด (GrabFood) ไลน์แมน (LINE MAN) และ ฟู้ดแพนด้า (foodpanda)

ถอดรหัส \"โออิชิ  กรุ๊ป\" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage ไพศาล อ่าวสถาพร

 

2. Re-engineering Brand’s Business Model : ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น โออิชิ ให้มีความทันสมัยตามเทรนด์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น นำเสนอรูปแบบโมเดลธุรกิจใหม่ !!! ชาบูชิ “บริการ 24 ชั่วโมง” รับวิถีคนเมือง “สังคมคนนอนดึก” (Sleepless Society) ที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น 3. Reinvented Customers Experience : สร้างคุณค่าตราสินค้า ผ่านสินค้าและบริการ เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ น่าประทับใจ แก่ผู้บริโภค และ 4. Spin-off Brands : พัฒนาและเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เสิร์มแกร่งพอร์ต ทั้งร้านอาหารและร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ได้แก่ โฮว ยู (HOU YUU), ซากาเอะ (SAKAE) จับกลุ่มลูกค้าระดับบน และ โอโยกิ (OYOKI) ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ร้านขนมหวานพรีเมียม ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสาขาแรก ณ อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะเปิดสาขา 2 ณ สามย่านมิตรทาวน์   เร็ว ๆ นี้

ถอดรหัส \"โออิชิ  กรุ๊ป\" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage

++ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง

 

ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน ซึ่งเป็นกลุ่มน้องใหม่และในปีที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนมากมาย รวมถึงการควบรวมแบรนด์เป็น "โออิชิ อีทโตะ” พร้อมเดินหน้ารุกตลาดเต็มที่

"เมขลา เนติโพธิ์" รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บอกว่า  ตลาดอาหารอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง ถือเป็นกลุ่มดาวรุ่งที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้อย่างลงตัว  ดังนั้นแผนรองรับการขยายตัวของตลาด เกิดขึ้นภายใต้ 3 กลยุทธ์ คือ 1. Brand Building & Communication : สร้างตราสินค้า โออิชิ อีทโตะ (OISHI EATO) ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมสร้างภาพลักษณ์ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทานสไตล์ญี่ปุ่น 2. Innovation : พัฒนาและสร้างสรรค์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและโดดเด่น ทั้งรูปแบบ รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และหีบห่อ/บรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย 3. Channel & Market Expansion : สร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายหลักอย่าง ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มฟู้ด เซอร์วิส ด้วยการซินเนอร์ยี่ระหว่างพันธมิตรกลุ่มธุรกิจในเครือไทยเบฟ รวมทั้งขยายสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้นทั้งอาเซียนและสหภาพยุโรป

ถอดรหัส \"โออิชิ  กรุ๊ป\" ขับเคลื่อนธุรกิจ Food&Beverage