นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจว่า “ ทางคณะได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้วโดย ทางกมธ.ฯได้มีมติ คือ 1. ที่ประชุมเห็นชอบให้กองทุนรับซื้อหนี้ที่มีบุคคลค้ำประกันได้ตามมาตรา 37/9 วรรคสอง โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าในการกำหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขไนกรณีที่มีบุคคค้ำประกัน ควรคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของเษตรกร เงื่อนไขความรับผิดขอผู้ค้ำประกันเดิม การกำหนดจำนวนผู้ค้ำประกัน คุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน และจำนวนหนี้เงินต้นที่จะรับซื้อ
เนื่องจากการดำเนินงานของกองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเป็นการใช้เงินงบประมาณของแผ่นดิน จึงควรกำหนตหลักเกณฑ์ วีธีการ และเงื่อนไขให้มีความรอบคอบ และขณะเดียวกันยังคงสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างแท้จริง 2. ที่ประชุมเห็นชอบให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่ตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้ 3.สำหรับกรรมการชุดเดิมที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พ.ร.บ.นี้บังคับใช้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ตำรงตำแหน่งต่อได้ไม่เกินสองปีตามพ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ 2542 โดยได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การดำรงตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปดังกล่าว ควรปฏิบัติหน้าที่เท่าที่จำเป็น และไม่กระทำการให้เกิดภาระผูกพันแก่กรรมการชุดใหม่
นายอุบลศักดิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ ทางกมธ.จะนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบัญญัติเป็นกฎหมายตามกระบวนการ ตนเชื่อว่า หากกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ได้ จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นหนี้สิน สามารถช่วยลดหนี้และดอกเบี้ย ทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น
“ในฐานะที่ผมเป็นรองประธาน สิ่งที่สำนักงานกองทุนฯ ต้องการก็ให้ทั้งหมด พร้อมให้กำลังใจให้ไปทำงานกัน โดยเฉพาะปัญหาเกษตรกรที่ขาดที่พึ่ง แล้วมีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่สามารถชำระหนี้ได้ ถือว่าเป็นลูกค้าชั้น1 ของกองทุนฟื้นฟูฯ แล้วเข้าสู่กระบวนการตัดดอก และลดต้นครึ่งหนึ่ง ผ่อนยาว 20 ปี พร้อมกับให้เงินไปประกอบอาชีพเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว และจะได้มีเงินมาจัดการใช้หนี้ในอนาคต”