ผวาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน -หั่นไฟลต์  ทัวริสต์ 5 แสนคนกลับประเทศ   

นักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย 5 แสนคนทยอยกลับประเทศ หลังไทยออกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน รวมถึงภูเก็ต จ่อปิดน่านฟ้าในวันที่ 10 เมษายนนี้ ด้านนักท่องเที่ยวตกค้างจากหลายสายการบินทยอยยกเลิกไฟลต์เฮโลติดต่อสตม.ยื่นเรื่องขออยู่ต่อ

นับจากรัฐบาลออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงกรณีที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต มีมติปิดการเดินทางทางอากาศของจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 10-30 เมษายนนี้ เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับที่ปิดช่องทางเข้า-ออก ทางบกและทางนํ้าไปแล้วก่อนหน้านี้

ทำให้ที่ผ่านมามีนักท่องต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยและยังคงอยู่ในเมืองไทย ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่าจะอยู่ที่ราว 5 แสนคน  ต่างเริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศผ่านในทุกช่องทางที่ยังคงมีสายการบินทำการบินอยู่

ปัจจุบันช่องทางหลัก คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจุบัน ณ วันที่ 29 มีนาคม 2563 พบว่าเหลือสายการบินเปิดให้บริการอยู่เพียง 48 สายการบิน(รวมการขนส่งสินค้าทางอากาศ) จากปกติที่มีทั้งหมด 120 สายการบินที่ทำการบินเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิ แต่วันนี้มีสายการบินยกเลิกทำการบินไปแล้ว 72 สายการบิน เหลือเที่ยวบินให้บริการอยู่ 802 เที่ยวบินจากปกติจะอยู่ที่ 1,088 เที่ยวบิน

ส่งผลให้ที่ผ่านมาจะเห็นการเดินทางออกของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจำนวนการให้บริการของสายการบินก็จะยังคงลดลงต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่สายการบินจะให้บริการแบบ “Evacuation Flight” เพื่อพาพนักงานกลับประเทศ และเป็นการให้บริการแบบขาเดียว คือ ไม่มารับไป ก็บินมารับกลับ ไม่ใช่ทำการบินแบบสถานการณ์ปกติ เนื่องจากมีผู้โดยสารน้อยมาก

นายกิติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่านับจากไทยออกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมผู้โดยสารเข้าไทย ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าผู้โดยสารขาเข้าต่อเนื่องมาโดยตลอด จากสถิติในวันที่ 29 มีนาคม 2563 ซึ่งมีเที่ยวบินให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ 249 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินขาออก 68 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาเข้า อยู่ที่ 69 เที่ยวบิน พบว่าในเส้นทางระหว่างประเทศมีผู้โดยสารขาออก 8,613 คน มีผู้โดยสารขาเข้า 1,795 คน บางเที่ยวบินมีผู้โดยสารไม่ถึง 10 คน

ทั้งที่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จะเห็นว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินลดลง 77.2% และมีจำนวนผู้โดยสารลดลง 91.7%

ขณะที่ในส่วนของสนามบินภูเก็ตจากการติดตามตัวเลขผู้โดยสารระหว่างประเทศพบว่า ปัจจุบันมีผู้เดินทางเข้ามาจำนวนน้อยมาก เช่น วันที่ 28 มีนาคม มีผู้โดยสารระหว่างประเทศเข้ามา 6 คน เดินทางออกประมาณ 8,000 คนเศษ วันที่ 29 มีนาคมผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้ามาเพียง 4 คน เดินทางออก 4,448 คน เป็นต้น

แสดงให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวแทบจะไม่เดินทางเข้ามาแล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตต่างทยอยเดินทางออกกลับประเทศ และมีลักษณะเช่นนี้มาได้ประมาณสัปดาห์เศษ ส่วนการเดินทางภายในประเทศยังมีผู้โดยสารอยู่บ้างแต่จำนวนไม่มาก เฉพาะวันนี้ (29 มี.ค.) ขาเข้าภายในประเทศ จำนวน 517 คน และเดินทางออกจากภูเก็ตประมาณ 2,000 คน และยิ่งใกล้จะถึงวันปิดน่านฟ้าภูเก็ตการเดินทางออกจะยิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังตกค้างอยู่ในไทยและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินกลับประเทศ ต่างยังคงทยอยเดินทางมาติดต่อเอกสารขออยู่ต่ออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากวีซ่าใกล้จะครบกำหนดวันที่จะสามารถอยู่ในไทยได้

โดยการให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะมีทั้งในเรื่องของการรับแจ้งรายงานตัวครบ 90 วันของชาวต่างชาติ, การเเจ้งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติภายใน 24 ชั่วโมง ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และการขออยู่ต่อในราชอาณาจักร เช่นวีซ่า on arrival วีซ่าท่องเที่ยวต่างๆ ของชาวต่างประเทศต่างๆ ที่กำลังจะครบวันที่จะอยู่ในราชอาณาจักรไทย และไม่สามารถกลับประเทศตนเองได้ เนื่องจากเหตุการณ์ covid -19 โดยขอหนังสือรับรองจากสถานทูตตนเองในประเทศไทยเพื่อขออยู่ต่อในประเทศไทยครั้งละไม่เกิน 30 วัน และอื่นๆ เป็นต้น

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,562 วันที่ 2-4 เมษายน 2563