นางวนิดา อรุโณทัย พาณิชย์จังหวัดระนอง เปิดเผยว่าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดระนองสรุปภาวะการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดระนอง ประจำเดือนมีนาคม 2563 พบว่ามีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 2,991.08 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้ามีมูลค่าการค้า 2,300.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 690.52 ล้านบาท หรือขยายตัว 30.02%
เมื่อแยกเป็นการส่งออกและการนำเข้า พบว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ด้าน โดยด้านการส่งออก มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,620.45 ล้านบาท เทียบกับเดือนก่อนหน้ามีมูลค่า 1,352.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267.47 ล้านบาท คิดเป็น 19.77% และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (มีนาคม 2562 ที่มีมูลค่า 1,546.11 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 74.34 ล้านบาท คิดเป็น 4.81%
สินค้าส่งออกไปเมียนมาสำคัญ ได้แก่ นํ้ามันเชื้อเพลิง/หล่อลื่น ท่อเหล็กใช้ในการขุดเจาะปิโตรเลียมปูนซิเมนต์ อุปกรณ์จับก้านเจาะใช้ในโครงการขุดเจาะทำด้วยเหล็กเครื่องดื่มให้พลังงาน เครื่องจักรและเครื่องใช้กลตาข่ายจับปลาข้อต่อเหล็ก และวาล์วปิด-เปิด พร้อมอุปกรณ์
ด้านการนำเข้าเดือนมีนาคมนี้มีมูลค่าทั้งสิ้น1,370.63 ล้านบาท เทียบเดือนก่อนหน้า (กุมภาพันธ์ 2563) ที่มีมูลค่า 947.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 423.05 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวถึง 44.65% ส่วนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (มีนาคม 2562 ที่มีมูลค่า 1,516.95 ล้านบาท) ลดลง 146.32 ล้านบาท คิดเป็นลด 9.65%
โดยสินค้านำเข้าสำคัญยังคงเป็นสินค้าประมงได้แก่ สัตว์นํ้า (ปลาแช่เย็น) ปลาป่นเครื่องจักรอุตสาหกรรมของทำด้วยเหล็ก อุปกรณ์จับก้านเจาะใช้ในโครงการขุดเจาะ ท่อเหล็กใช้ในการขุดเจาะปิโตรเลียม ปลาหมึกแช่เย็น/แช่เย็นจนแข็ง หอยแครงมีชีวิต, เครื่องจักรและเครื่องใช้กลปะเก็นและแผ่นกันรั่วที่คล้ายกัน ทำด้วยแผ่นโลหะ ปลาเบญจพรรณไม่เหมาะสำหรับมนุษย์บริโภค และสารยึดปรุงแต่งสำหรับทาแบบหล่อหรือแกนหล่อ
นางวนิดา กล่าวอีกว่าสำหรับดุลการค้าเดือนมีนาคมดังกล่าว ไทยเกินดุลการค้าอยู่ 249.82 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้าที่เกินดุลการค้าอยู่ที่ 405.40 ล้านบาท ลดลง 38.38% จากการเร่งการนำเข้าเพิ่มที่สูงขึ้นถึง 44.65% ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่ไทยเกินดุลการค้าที่ 29.16 ล้านบาท ทำให้เดือนมีนาคม 2563 นี้ไทยได้ดุลการค้าเมียนมาเพิ่มขึ้น 220.66 ล้านบาท หรือโตถึง 756.72%
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่าเหตุการณ์สำคัญของการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านด่านระนองในเดือนมีนาคม คือ คำสั่งปิดด่านห้ามคนสัญจรไปมาข้ามพรมแดนทั้งฝั่งเมียนมาและไทย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ยังเปิดให้การขนส่งสินค้าผ่านด่านได้ เพียงแต่อาจมีความยุ่งยากในการแจ้งเข้า-ออก และการตรวจคนเรือเพิ่มขึ้น โดยที่การค้าชายแดนด้านจังหวัดระนองไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านดังกล่าว แต่ปรากฏว่ามูลค่าการค้าเดือนมีนาคมกลับดีดตัวสูงขึ้นกว่าที่เป็นมาตลอดปี 2562 ต่อเนื่องต้นปี 2563 ที่มูลค่าการค้าชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลก ชะลอจากสงครามการค้า เนื่องจากคู่ค้าทั้งในฝั่งไทยและเมียนมา ต่างเร่งสั่งซื้อสินค้าที่ต้องใช้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเกรงสถานการณ์การระบาดจะยิ่งเลวร้าย อาจทำให้สั่งสินค้าไม่ได้ จึงเร่งดำเนินการ ทำให้ทุกอย่างไม่ลดลงมากนัก ยังคงค้าขายตามปกติ
ด้านสถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย 2 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ก.พ.) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 171,314 ล้านบาท ลดลง 6.46% แบ่งเป็นการส่งออก 117,946 ล้านบาท ลดลง 6.10% และการนำเข้า 53,368 ล้านบาท ลดลง 7.25% เกินดุลการค้า 64,578 ล้านบาท
ทั้งนี้ ด้านการค้าชายแดนพบว่า มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 มูลค่า 62,807 ล้านบาท ลดลง 10.48% เป็นการส่งออก 41,131 ล้านบาท ลดลง 3.21% นำเข้า 21,676 ล้านบาท ลดลง 21.65% รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่า 43,717 ล้านบาท ลดลง 14.04% กัมพูชา มูลค่า 33,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.66% และเมียนมา มีมูลค่า 30,885 ล้านบาท ลดลง 5.89%
ขณะที่การค้าผ่านแดนไปยังสิงคโปร์มีมูลค่าสูงสุด 14,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.68% เป็นการส่งออก 5,689 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.00% นำเข้า 8,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.49% รองลงมา คือ จีนตอนใต้ มูลค่า 12,256 ล้านบาท ลดลง 27.34% และเวียดนาม มีมูลค่า 6,898 ล้านบาท ลดลง 46.47%
หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,567 วันที่ 19 - 22 เมษายน 2563