นายเควิน จอห์นสัน ประธานกรรมการบริหาร สตาร์บัคส์ ทำจดหมายเปิดผนึกถึงลูกค้าและพนักงาน ซึ่งสตาร์บัคส์เรียกว่า “พาร์ทเนอร์” ทั่วโลก หลังจากที่ร้านสาขาในสหรัฐอเมริกาได้ทยอยกลับมา “เปิดให้บริการอย่างรับผิดชอบ” (responsibly re-opened) อีกครั้งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในขณะที่ผู้คนทั่วโลกเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน สตาร์บัคส์พร้อมเข้าสู่กลยุทธ์ “now normal” ซึ่งเป็นคำที่สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาของสตาร์บัคส์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยยังคงคำนึงถึงและให้ความสำคัญต่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้าและพาร์ทเนอร์เป็นหลักสำคัญ
“ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ผู้คนทั้งโลกต่างต้องรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ภาพแห่งพลังความร่วมมือร่วมใจของมวลมนุษยชาติ ภาพของผู้คนที่เสียสละทำงานเพื่อส่วนรวม อีกทั้งความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นตั้งใจ และทัศนคติเชิงบวกของทุกคน คือแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้พวกเราทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”
สตาร์บัคส์มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ Third Place หรือ บ้านหลังที่สาม ของผู้คน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าต้องการ นั่นคือ ความปลอดภัย ความคุ้นเคย และความสะดวกสบาย โดยบ้านหลังที่สามนี้นับเป็น mindset ของสตาร์บัคส์ เป็นเหมือนความรู้สึกอบอุ่นสบายใจที่เราส่งมอบให้ลูกค้าทุกคนในทุกที่ และคงไม่มีช่วงเวลาใดที่ บ้านหลังที่สาม จะสำคัญมากไปกว่าเวลานี้อีกแล้ว เพราะเป็นเวลาที่ทุกคนอยากกลับมาพบเจอ พูดคุย และเยียวยาหัวใจในช่วงเวลาที่ขาดหายไป
สำหรับสตาร์บัคส์ ประเทศไทย ก็ยึดถือแนวทางที่ประธานกรรมการบริหารได้วางไว้ และพร้อมปรับเปลี่ยนแนวทางที่อาจมีความแตกต่างจากเดิม โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) เป็นสำคัญ และเพื่อสืบสานพันธกิจของการเป็น บ้านหลังที่สาม ของลูกค้าเช่นเคย
ร้านบางสาขาของสตาร์บัคส์ได้เริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ และเริ่มให้บริการที่นั่งแบบเว้นระยะห่างเฉพาะบางสาขา ตามแนวทางและมาตรการล่าสุดจากรัฐบาล นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อเครื่องดื่มแก้วโปรดผ่านบริการเดลิเวอรี่ใน Grab และ Foodpanda อีกทั้งช่องทางไดรฟ์ ทรูว์และบริการ Call & Pick Up ที่ลูกค้าสามารถโทรสั่งเครื่องดื่มให้มาส่งที่รถได้เช่นกัน