‘คาราบาวกรุ๊ป’ เร่งสปีดชิงเบอร์ 1 ฟังก์ชันนัลดริงก์
คาราบาว กรุ๊ป เดินหน้ารุกตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ เพิ่มกำลังผลิตไลน์บรรจุขวด-กระป๋อง 30-40% มั่นใจขึ้นเบอร์ 1 ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสแรกทำรายได้กว่า 4,000 ล้านกำไรเพิ่มขึ้น 106.5%
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่บริษัทร่วมทุนกับวู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา เปิดตัวเครื่องดื่มวิตามินซี “วู้ดดี้ ซี+ล็อค” ออกวางจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงกิจกรรมการตลาดต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และเข้าถึงนวัตกรรม C+Lock
ล่าสุดบริษัทมีแผนขยายไลน์ตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์มากขึ้น เพื่อรองรับเทรนด์สุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนมิถุนายนนี้มีแผนเปิดตัวรสชาติใหม่ คือ วู้ดดี้ ซี+ล็อค รสส้ม โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 100 ล้านขวด นอกจากนี้ในปลายปีจะเปิดตัวสินค้าในกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์อื่นๆ เพิ่มเติม โดยตั้งเป้าหมายที่เพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์ให้มากขึ้น และก้าวสู่ผู้นำตลาดในอนาคตอันใกล้
“ฟังก์ชันนัล ดริงก์ เป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ และเป็นเทรนด์ที่นิยมของคนรุ่นใหม่ ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์จากฐานการผลิตของบริษัทที่มีอยู่ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงต่อยอดผลสำเร็จของเครือข่ายกระจายสินค้าของคาราบาว กรุ๊ป ซึ่งมีศักยภาพสูงสามารถเข้าถึงร้านค้าปลีกได้กว่า 1.8 แสนแห่งทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเซเว่นอีเลฟเว่น, ซีเจ เอ็กซ์เพรส, ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ ฯลฯ”
อย่างไรก็ดีหลังจากที่ตลาดต่างประเทศมีการเติบโตต่อเนื่อง บริษัทจึงได้ลงทุนขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยติดตั้งเครื่องจักรสายบรรจุขวดและกระป๋องใหม่ ที่โรงบรรจุเครื่องดื่มบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มกำลังผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวดเป็น 4.20 ล้านขวดต่อวัน คิดเป็น 40% และเพิ่มกำลังผลิตเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องเป็น 5.90 ล้านกระป๋องต่อวัน คิดเป็น 30%
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา พบว่ามีรายได้กว่า 4,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นราว 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.5% โดยมาจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศที่ทำรายได้ 2,156 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 30% แบ่งเป็นกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะตลาดกัมพูชาและเมียนมา
ซึ่งมีการเติบโตอย่างมาก คิดเป็นรายได้ 1,969 ล้านบาท ประเทศจีน 66 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากเยเมนและอัฟกานิสถาน ขณะที่รายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายอยู่ที่ 475 ล้านบาท เติบโตขึ้น 63.5% ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศยังหดตัว โดยปัจจุบันคาราบาวแดง ครองส่วนแบ่งตลาด 21.4% อยู่ในอันดับ 2
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,576 วันที่ 21-23 พฤษภาคม 2563