‘ธัญ’จับมือแพทย์ผิวหนัง ชวนดูแลผิว สู้โควิด
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หลายหน่วยงานปรับรูปแบบการทำงานมาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work from home) เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าการทำอยู่แต่ภายในบ้านตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา อาจทำให้หลายคนหลงลืมการดูแลสุขภาพผิวและร่างกายไปโดยปริยาย โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องผิวพรรณขึ้นมาได้
แพทย์หญิง นิโลบล เจริญวุฒิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม จึงได้ออกมาแนะนำการดูแลสุขภาพและผิวพรรณในช่วงชีวิตติดบ้าน (Work From Home) พร้อมเทคนิคการสร้างความสดชื่น ผ่อนคลาย ร่วมกับแบรนด์ “ธัญ” (THANN) ว่าในช่วงนี้ที่ต้องใช้ชีวิตและทำงานอยู่แต่ในบ้าน น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้มีเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองมากขึ้น ส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพทางด้านร่างกาย อารมณ์ ถึงแม้ว่าการใช้ชีวิตติดบ้านนั้นทำให้ไม่ต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะต่างๆ ที่มาบั่นทอนสุขภาพผิว แต่ก็ไม่ควรละเลยการดูแลสุขภาพผิว เพราะการที่อยู่แต่ภายในบ้านหรือห้องแอร์เป็นเวลานานๆนั้นก็ส่งผลเสียต่อผิวเช่นกัน ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นก็ส่งผลให้เกิดปัญหาริ้วรอยต่างๆ ตามมา”
โดยเฉพาะกลุ่มของผู้ที่มีผิวแห้ง ริ้วรอยที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นริ้วรอยถาวรได้ง่ายมาก ดังนั้นจึงต้องหมั่นเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณด้วยการทาครีมบำรุงทุกครั้งหลังการล้างหน้าหรืออาบนํ้า และไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดร่วมด้วยเพื่อป้องกันรังสียูวีจากแสงแดด นั่นเป็นเพราะรังสียูวีสามารถทะลุผ่านเข้ามาทำร้ายผิวได้ทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ในที่ร่ม และควรดื่มนํ้าให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ใน ระหว่างวันอาจใช้สเปรย์นํ้าแร่ฉีดร่วมด้วยเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อให้ผิวเปล่งปลั่ง ไม่แห้งกร้าน
ขณะที่การใช้ชีวิตติดบ้านอาจส่งผลกระทบกับอารมณ์และความรู้สึกด้วย เนื่องจากเกิดความเบื่อ เหงา เครียดกับบรรยากาศเดิมๆ ส่งผลกระทบโดยตรงกับผิวด้วย เพราะเมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ทำให้เกิดอาการผิวมัน สิว ริ้วรอย นอกจากนี้ความเครียดยังทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายตํ่าลง ทำให้ผิวหนังติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นควรหาวิธีผ่อนคลายด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศโดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้าน รวมถึงหากิจกรรมทำร่วมกับคนในครอบครัว เช่น การทำอาหาร การปลูกต้นไม้ การจัดดอกไม้ รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่ดีภายในบ้านให้น่าอยู่อย่างง่ายๆ ด้วยการแต่งเติมความหอมให้บ้าน
ทั้งนี้สามารถเลือกใช้นํ้ามันหอมระเหยธรรมชาติ โดยอาจจะเลือกกลิ่นที่ชอบ เพื่อสร้างความผ่อนคลายด้วยการใช้กลิ่นหอมบำบัด นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบรรเทาความเครียดที่ได้ผลดีและเร็วที่สุด เนื่องจากกลิ่นจะเข้าไปกระตุ้นสมองส่วนควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกเพื่อหลั่งสารที่มีประโยชน์ และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก ได้แก่ เอ็นโดฟิน (Endorphin) สารที่ช่วยลดความเจ็บปวด คลายความเครียด และความ วิตกกังวล, เอนเคฟาลิน (Enkephalin) สารที่ช่วยลดอาการซึมเศร้า และเซโรโทนิน (Serotonin) ช่วยทำให้สงบ เยือกเย็น และผ่อนคลายจากสภาวะเครียดได้”
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,579 วันที่ 31 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน พ.ศ. 2563