สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ได้เข้าประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุมตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมในวาระที่ 5 (เรื่องอื่นๆ) ทางสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยท.) ได้เสนอของบประมาณจากโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท้องถิ่นจำนวนเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชน (ตามโครงการพระราชดำริที่หุบกะพง จ.เพรชบุรี ได้ขุดสระน้ำเก็บน้ำฝนไว้ใช้อุปโภค บริโภค และทำสวนครัวในหมู่บ้าน และเพื่อขุดสระทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ 75,032 แห่ง นอกจากนั้นยังทำเขื่อนยางกั้นน้ำทุก 5 กิโลเมตร อีก 25 ลุ่มน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ทำการเกษตรและอุตสาหกรรมโดยได้ยื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทันในการนำไปพิจารณาร่วมกับงบ 4 แสนล้านบาท โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการนำเสนอ
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการที่สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยท.) ได้ยื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อของบบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระดับล่าง 1 แสนล้านบาท เพื่อสร้างแหล่งน้ำทั่วประเทศซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เกิดจากโควิด 19 นั้น เมื่อคนตกงานส่วนมากจะกลับบ้านเพื่อประกอบอาชีพทางการเกษตร แต่คนส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง
ทางรัฐบาลจึงต้องหาแนวทางในการจัดหาที่ดินเพื่อให้คนตกงานเช่าทำการเกษตร นอกจากนั้นรัฐบาลจะต้องจัดหาโมเดลที่รัฐหรือเอกชนที่ทำไว้เพื่อได้ศึกษาและนำมาเป็นช่องทางที่จะพัฒนาอาชีพเกษตรโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้มีหลายเมนูให้เลือกเพื่อความเหมาะสมของพื้นที่ดังนี้
โมเดลที่ 1 มี 12 โครงการ คือ 1 โครงการแผ่นดินของพระราชาสหกรณ์หุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 2 โครงการนะโมพุทธายะ จังหวัดกาญจนบุรี ปลูกสมุนไพรเป็นทางเลือกในพื้นที่ 5 ไร่/ครอบครัว ทำการเกษตรปลูกพืชผัก สมุนไพร 3 โครงการนะโมพุทธายะ จังหวัดสุพรรณบุรี พื้นที่ 10 ไร่/ครอบครัว ขุดบ่อน้ำปูด้วยยางพารา 1 ไร่ มีน้ำใช้เพื่อการเกษตรตลอดปี ปลูกไผ่ลดโลกร้อน ปลูกข้าว ปลูกอ้อย และอื่นๆ ด้วยซิลิคอนทำให้ผลผลิต้พิ่มสูงขึ้น
4.โครงการสร้างเงินสร้างงาน อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา โดยเคยเป็นอำเภอที่ยากจนที่สุด ปัจจุบันเป็นอำเภอที่รวยที่สุดในจังหวัดสงขลาทำเกษตรปลอดสารเคมี 5. โครงการสร้างเงินสร้างงาน อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ในอดีตชาวนาที่ปะนาเระได้ผลผลิตข้าวที่ต่ำมาก ขาดทุนที่มีหนี้สินแต่ปัจจุบันเข้าโครงการได้ผลผลิตเพิ่มจนใช้หนี้และมีเงินเก็บ
6.โครงการป้องกันไฟป่าและลดฝุ่นพิษ PM 2.5 ทั้ง 25 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่โครงการนำใบไม้ใบหญ้ามาเผาทำถ่านคาร์บอนและนำไปผสมซิลิคอนบำรุงดินลดการนำเข้า ปุ๋ยเคมี ลดการใช้สารเคมี ทำให้ลดต้นทุนการผลิต7 โครงการปลูกพืชผัก กระเทียม ข้าว ผลไม้ ไม่ใช้สารเคมี ใช้ซิลิคอนหรือฝนเทียมหรือหมอน้ำไม่กลัวแล้งและ FT-77 สารธรรมชาติเคลือบใบป้องกันโรคและแมลงโดยไม่ใช้สารเคมีทำให้ปลูกผัก 1 ไร่ ปลูกกระเทียม 3 ไร่ ได้เงิน 1 แสนต่อรอบการปลูก
8 โครงการคัดแยกขยะและบำบัดน้ำเสียในครัวเรือนเพื่อทำให้ดินน้ำลมไฟสะอาด ส่วนขยะสดสามารถนำมาเผาทำถ่านคาร์บอนผสมซิลิคอนบำรุงดิน เพื่อใช้แทนปุ๋ยเคมีได้ ภาครัฐก็ไม่ต้องมาเก็บขยะ ปัญหาขยะล้นเมืองก็จะหมดไป 9 โครงการการแก้ไขปัญหาดินเค็มในนากุ้งร้างทั่วประเทศและผืนที่ดินเค็มในภาคอีสาน ควรให้การสนับสนุนปลูกมะพร้าวน้ำหอม และยกร่องเลี้ยงปลาสองน้ำเพื่อใช้ที่ดินว่างเปล่าปล่อยทิ้งให้เกิดประโยชน์
10.โครงการพันธุ์ยางฟ้าประทานมียาง 1 ตันเหมือนมียาง 1 ไร่ ยางอายุ 120 ปี ไม่ต้องโค่นทิ้ง เมื่อใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ซิลิคอนและผลิตภัณฑ์ฝนเทียมจะทำให้หน้ายางไม่ตายนึ่งให้ผลผลิตสูง เปอร์เซ็นต์เนื้อยางสูงทำให้ดินดี เหมือนป่าใหม่
11.โครงการพันธุ์มันฟ้าประทานให้ผลผลิตสูงมากกว่า 15 ตัน 1 ไร่ให้เปอร์เซ็นต์แป้งสูงปลูก 6-7 เดือน เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และ 12. โครงการพันธุ์อ้อยฟ้าประทานให้ผลผลิตสูง ประมาณ 20-25 ตัน/ไร่ ให้เปอร์เซ็นต์ C.C.S.สูง เมื่อใช้ซิลิคอนและผลิตภัณฑ์ฝนเทียมอ้อยโตเร็ว แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรค และแมลงได้ทำให้ดินดีมีไส้เดือนเกิดขึ้น
ดังนั้น ก่อนที่จะใช้งบประมาณจึงควรไปศึกษาดูงานโดยเลือกพื้นที่หนึ่งพื้นที่ใดที่มีความเหมาะสมก่อนลงทุนเพราะตัวอย่างทั้ง 12 แห่งจะตอบโจทย์แต่เราควรที่จะพัฒนาต่อยอดให้ดีกว่าตัวอย่างที่เราเห็นเราจะได้มีอาชีพใหม่ที่มั่นคง
ส่วน โมเดลที่ 2 มี 2 โครงการ คือ 1. โครงการการปลูกสมุนไพรเพื่อเป็นอาชีพที่มั่นคงเพราะประเทศไทยตั้งแต่บรรพบุรุษเรามีความรู้แพทย์แผนไทย เพราะเนื่องจากน้ำและดินเรามีความเหมาะสมกับพืชสมุนไพร ดังนั้นประเทศไทยจึงควรฟื้นฟูแพทย์แผนไทยให้กลับมาสนับสนุนแพทย์ปัจจุบันเพราะตั้งแต่ใช้นโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค คนไข้จะเข้าไปรักษาแพทย์ปัจจุบันจนคนไข้ล้น แพทย์ไม่เพียงพอการรักษาไม่ทั่วถึง
ดังนั้น แพทย์แผนไทยจึงช่วยแบ่งเบาภาระในชนบทได้ แต่แพทย์แผนไทยจะต้องได้รับการอบรมอย่างถูกต้องจึงจะทำการรักษาได้ การปลูกสมุนไพรจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ลดงบประมาณในการสั่งยาจากต่างประเทศได้มาก และเป็นการสนับสนุนแพทย์แผนไทยอีกทางหนึ่งรัฐบาลควรที่จะยกร่างพระราชบัญญัติแพทย์แผนไทยเพื่อพัฒนาให้เป็นระบบ เพราะประเทศไทยส่งออกยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ปีละ 333,000 ล้านบาท
ซึ่งถ้ารัฐบาลสนับสนุนจะทำรายได้เข้าประเทศอีกหลายเท่าตัว และจะเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่พึ่งพาตนเองและทำเป็นอาชีพหลัก โดยมีอนาคตที่มั่นคง และ 2. โครงการการปลูกไผ่ การปลูกไผ่จะมีประโยชน์ดังนี้ ได้ความมั่นคงทางอาหารจากหน่อไผ่ ความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงด้านไม้ใช้สอย ได้เครื่องนุ่งห่มโดยใช้เส้นใยไผ่มาผลิตเสื้อผ้า ได้ยารักษาโรค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายอุทัย กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 ระบาดไปทั่วโลกจึงทำให้ประเทศไทยรายได้จากการท่องเที่ยวลดลงมาก ธุรกิจโรงแรมกระทบอย่างรุนแรง อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการส่งออกจึงทำให้คนไม่มีงานทำกว่า 10 ล้านคน เมื่อคํานึงถึงสิ่งเหล่านี้แล้วโอกาสที่ประเทศไทยและเศรษฐกิจจะฟื้นตัวยากมาก ซึ่งมีอยู่ทางเดียวเท่านั้น ก็คือ รัฐบาลจะต้องหันมาพัฒนาเกษตรกรรมของไทยให้เติบโตอย่างรวดเร็วโดยการจัดการแหล่งน้ำที่ดินทำการเกษตร และเงินทุนสนับสนุน (กู้ดอกเบี้ยต่ำ) ส่วนฝ่ายรัฐบาลจะต้องทุ่มเทงานวิจัยนวัตกรรมด้านอาหารให้มากๆ
โดยยึดแบบเกษตรปลอดภัยมีคุณภาพรสชาติผลไม้จะต้องดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยการนำเอาแนวทางของญี่ปุ่น เกาหลีเนเธอร์แลนด์ อิสราเอล มาพัฒนาต่อยอดเพื่อให้สินค้าเกษตรของเราเป็นที่เชื่อถือของชาวโลก คนไทยเทิดทูน “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ไว้เหนือเกล้า เกษตรกรทุกคนจะต้องระลึกถึงพระองค์ในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้จะส่งผลทำให้สภาพคล่องจะเกิดขึ้นกับคนระดับล่างโดยอยู่อย่างมีความสุขยิ่งขึ้นและมีกำลังใจทำงานเป็นการพึ่งพาตนเองจากปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ร่างกายจะไม่ได้รับผลกระทบจากอาหารที่มีสารพิษเจือปน ธรรมชาติจะกลับคืนมา
เหมือนโบราณว่าประเทศไทย “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ในดินมีไส้เดือน จะทำให้ประเทศไทยจะฟื้น ธรรมชาติกับคืนมา ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกออกมาพักผ่อนตามธรรมชาติ รับประทานอาหารและผลไม้ที่ปลอดภัย สูดอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ ผลิตอาหารปลอดภัยขายคนทั่วโลก จะปลดหนี้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทได้เพียงใช้งบ 1 แสนล้านบาท ทำระบบน้ำทั่วประเทศ ประเทศจะมั่นคงทางเศรษฐกิจ ประชาชนจะมั่งคั่งทำให้ลดอาชญากรรมลง เกษตรกรจะอยู่ดีกินดีมีความสุขโดย 1 ปี หลุดหนี้ 2 ปี อยู่ดี 3 ปี มีเงินฝากกันถ้วนหน้า (ถ้าขยันทำกิน)